“ทักษิณ” จ่อได้สิทธิ์เข้าเกณฑ์ได้พักโทษ-ไม่ต้องติดกำไล EM
รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ เผย ทักษิณจ่อรอได้พักโทษ 18 ก.พ.นี้ เหตุเข้าหลักเกณฑ์ตามเงื่อนไขป่วย-สูงอายุ คาดไม่ต้องติดกำไล EM
จากกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมายืนยันว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็น 1 ในรายชื่อที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะอนุกรรมการการพักโทษ
โดย พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ นายทักษิณ ได้รับการพักโทษเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและเจ็บป่วย ซึ่งหากนับตามวันที่และเวลาที่อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าสู่กระบวนการรับโทษมาแล้วก่อนหน้านี้ คิดเป็น 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน (180 วัน) จะทำให้ในวันที่ 18 ก.พ. นี้ นายทักษิณก็จะเข้าสู่กระบวนการพักโทษทันที ซึ่งก็ต้องดูรายละเอียดเรื่องอื่นด้วย
ทั้งนี้ในกรณีของนายทักษิณ หรือบุคคลใดก็ตามซึ่งเป็นผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและมีอาการเจ็บป่วยนั้น ตามมาตรฐานการปฏิบัติ ทางกรมคุมประพฤติ จะเป็นฝ่ายเดินทางเข้าพบด้วยตัวเองภายใน 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-วันที่ 21 ก.พ. ที่สถานที่พักโทษของแต่ละราย หรือสถานที่ที่ได้นัดหมาย เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการพักโทษ เงื่อนไขการคุมความประพฤติ การปฐมนิเทศ และการดำเนินการเบื้องต้น แต่ก่อนจะเข้าพบ เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติต้องได้รับการประสานยินยอมจากเจ้าตัวและญาติก่อนว่าสะดวกช่วงเวลาใด ส่วนการพักโทษแบบปกติ ผู้ได้รับการพักโทษจะต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติด้วยตัวเอง ภายใน 3 วันเช่นเดียวกัน
สำหรับการติดหรือไม่ติดกำไล EM นั้น จะเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการพักการลงโทษที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งในกรณีของนายทักษิณ ถือว่าเป็นผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษฯ เนื่องจากสูงอายุ มีอายุ 74 ปี และเจ็บป่วย ดังนั้น ตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ มักจะไม่ให้ได้รับการติดกำไล EM
ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ มีคดีคงค้าง 1 คดี คือ คดีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการเตรียมอายัดตัวนั้น จะถือว่าต้องระงับสิทธิการพักโทษหรือไม่ พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ไม่ผิดเงื่อนไข เพราะการจะถูกดำเนินคดีใหม่จะไม่เป็นการผิดเงื่อนไขพักโทษ สามารถรายงานตัวได้เหมือนเดิมและเจ้าหน้าที่คุมประพฤติเข้าพบได้เหมือนเดิม และการพักโทษยังคงดำเนินต่อไปแม้จะถูกดำเนินคดีอื่นก็ตาม.