กทม. จ่อโอนรถไฟฟ้า 3 สาย ลงทุนใหม่คืน “กระทรวงคมนาคม” ก่อสร้างแทน

“วิศณุ ทรัพย์สมพล” เผยที่ประชุม กทม. มีมติยกเลิกโครงการรถไฟฟ้าสายสีเงิน เทา และฟ้า ที่จะลงทุนใหม่ส่งคืนกระทรวงคมนาคมให้ก่อสร้างแทน หลังไร้งบประมาณ ขณะที่มีโครงการอื่นจำเป็นต่อประชาชนมากกว่า หวังรัฐบาลดำเนินการเพื่อเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมในอนาคต


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (13 ก.พ.67) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบโอนภารกิจโครงการรถไฟฟ้าที่จะต้องลงทุนก่อสร้างใหม่ในความรับผิดชอบของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) คืนไปให้ กระทรวงคมนาคม จำนวน 3 โครงการ อาทิ โครงการสายสีเงิน สายสีเทา และสายสีฟ้า

ทั้งนี้มีข้อพิจารณาแล้วว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเงิน มีเส้นทางระหว่างบางนา เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมระยะทาง 19.7 กิโลเมตร จำนวน 14 สถานี จะเชื่อมต่อกับสายสีเขียวที่สถานีบางนา และสายสีเหลือง ที่สถานีศรีเอี่ยม ซึ่งพบว่าเส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ของกรมทางหลวง สังกัดกระทรวงคมนาคม และเส้นทางเกินครึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา ระยะที่ 1 ช่วงวัชรพล เชื่อมทองหล่อ รวมระยะทาง 16.3 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี จะมีสถานีใหม่ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าถึง 5 สาย ทั้งสายสีชมพู, สายสีน้ำตาล, สายสีเหลือง, สายสีส้ม และสายสีเขียว ที่สถานีทองหล่อ แต่เส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สังกัดกระทรวงคมนาคม รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีฟ้า เส้นทางดินแดง เชื่อมสาทรรวมระยะทาง 9.5 กิโลเมตร มีจำนวน 9 สถานี ตามแผนจะเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน ที่สถานีเพลินจิต ศาลาแดง

ขณะที่เหตุผลหลักที่โอนคืนรัฐบาล เนื่องจาก (กทม.) ไม่มีงบประมาณเพียงพอหากดำเนินการ เพราะมีโครงการอื่นที่จำเป็นมากกว่า หากรัฐบาลดำเนินการระบบตั๋วร่วมที่ต้องเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่มีเกือบ 10 สายทางในปัจจุบัน และโครงการที่จะเกิดในอนาคต ซึ่งขั้นตอนจากนี้จะเสนอให้ผู้ว่าฯ กทม.ลงนาม และแจ้งต่อคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้พิจารณา

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าที่ กทม.จะตั้งใจเดินหน้าทำเองคือ สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงบางหว้า เชื่อมตลิ่งชัน ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร มูลค่า 7,000 ล้านบาท ขณะนี้ กทม.กำลังอยู่ในช่วงหารือร่วมกับ กรมทางหลวงชนบท เพื่อขอพื้นที่ถนนราชพฤกษ์บางส่วนมาใช้ในการก่อสร้าง โดยใช้งบประมาณปี 68 เพื่อศึกษารูปแบบการลงทุน ในลักษณะเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ และต้องทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

Back to top button