โบรกชู TIDLOR ท็อปพิก! เคาะเป้า 25 บาท ชี้เงินสำรองสูงสุดกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์กลุ่มไฟแนนซ์จดทะเบียนในตลาดหหลักทรีพย์แห่งประเทศไทยว่า โดยนักวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการในปี 2567 ของกลุ่มไฟแนนซ์มีแนวโน้มบวก

โดยนักวิเคราะห์หลายแห่ง มีมุมมองว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นในกลุ่มไฟแนนซ์เพื่อการอุปโภคบริโภคในปี 2567 นี้ แต่ทางบล. เกียรตินาคินภัทร มีความเห็นต่าง จากนักวิเคราะห์แหล่งอื่นๆ เพราะแม้การลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลเชิงบวกในระยะสั้น แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน ยังมองว่าปีนี้เศรษฐกิจยังมีความแรงกดดันอยู่มาก และคงมุมมอง “ขาย” หุ้น SAWAD และ MTC ขณะที่แนะนำ “ถือ” KTC

ขณะที่ KKPS มองว่าในปีนี้ จะยังเห็นดาวน์ไซด์ต่อการระดมทุนผ่านหุ้นกู้ ถึงแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม แต่มองว่ากลุ่มไฟแนนซ์อาจจะยังต้องจ่ายดอกเบี้ยในระดับสูงเนื่องจากความเสี่ยงในภาพรวมนั้นที่ฝ่ายวิเคราะห์มองยังสูงอยู่ รวมถึงกับขนาดของการรีไฟแนนซ์ที่ใหญ่ และสภาพคล่องที่มีจำกัด

สำหรับต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) ประเมินว่ายังคงสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเชื่อว่าการเติบโตของรายได้ของผู้กู้จะยังต่ำกว่ามูลค่าที่จะต้องจ่ายหนี้ นอกจากนั้นแล้วยังเห็นการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีหนี้เสีย (NPL) ที่สูงขึ้น และยอดขายที่ปรับตัวลงจากราคารถมือสองที่อ่อนแอจะยิ่งเป็นปัจจัยที่กดดัน Credit Cost

ทั้งนี้ KKPS ยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 25 บาท และชูเป็นหุ้นท็อปพิกในกลุ่มไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นผลมาจาก บริษัทไม่มีความเสี่ยงต่อสินเชื่อบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน รวมทั้งมีเงินสำรองสูงที่สุดในกลุ่มสินเชื่อรถ และมีความเสี่ยงต่อการรีไฟแนนซ์ต่ำ

ส่วน บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC แนะนำถือ และให้ราคาเป้าหมายที่ 46 บาท อีกทั้งแนะนำขาย บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ราคาเป้าหมายที่ 35.50 บาท และ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท