NL ปิดจ๊อบขายไอพีโอ 130 ล้านหุ้น ดีเดย์เทรด SET 20 ก.พ.นี้
NL ปิดการจองซื้อหุ้นไอพีโอ 130 ล้านหุ้น นักลงทุนตอบรับดี มั่นใจศักยภาพธุรกิจเติบโตโดดเด่น ดีเดย์ลงสนามเทรด SET 20 ก.พ. นี้
นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL เปิดเผยว่า ในช่วงการเปิดจองซื้อหุ้น IPO ของ NL ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ NL ประกอบกับบริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 130,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาทต่อหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นอัตราส่วนต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 8.44 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน
อีกทั้งการเติบโตที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ความยั่งยืนของ NL ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ส่งผลให้การจองซื้อในครั้งนี้ได้รับการตอบรับขายหุ้นหมดทั้งจำนวน โดย NL เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON) / หมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 นี้
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากปิดการจองซื้อหุ้น IPO ของ NL ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ที่เชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ มีจุดเด่นด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญงานรับเหมาก่อสร้างที่สั่งสมมามากกว่า 40 ปี ให้บริการงานก่อสร้างหลากหลายประเภทและมีความเชี่ยวชาญพิเศษ โดยเฉพาะงานก่อสร้างที่มีความซับซ้อน รวมถึงงานอาคารสถานพยาบาลที่สอดรับกับเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์
นอกจากนี้ NL ยังได้นำเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) มาช่วยในขั้นตอนการออกแบบก่อสร้าง ทำให้การวิเคราะห์ การควบคุมงานออกแบบ การก่อสร้างเป็นไปอย่างมีมาตรฐาน คุณภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ NL มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะกำไรสุทธิ ทั้งยังไม่มีภาระเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจ่าย
รวมถึงมีกระแสเงินสดแข็งแรง และจากหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดในการติด Silent Period ห้ามขายหุ้นในสัดส่วน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ NL ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง มีความมั่นใจในการเติบโต พร้อมใจร่วมกัน Lock up หุ้นเดิมทั้งหมด 100% เป็นระยะเวลา 2 เดือน
อนึ่งสำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างโตก้าวกระโดดอยู่ที่ 1,708.33 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 131.63% โดยโครงสร้างรายได้หลักมาจากกลุ่มงานโครงการสถานพยาบาล 78.14% อาคารสำนักงานและเพื่อพาณิชย์ 20.03% และอาคารพักอาศัย 1.83%
ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 104.55 ล้านบาท เติบโต 1,202.79% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8.01 ล้านบาท และเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ทั้งปีที่มีกำไรสุทธิ 57.56 ล้านบาท โดยอัตรากำไรสุทธิของงวด 9 เดือนแรกปี 2566 เท่ากับ 6.12% ซึ่งมีศักยภาพโดดเด่นในอุตสาหกรรม และคาดว่าเมื่อหุ้น NL เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในการซื้อขายเป็นวันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ NL กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของ NL ทำให้การจองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จได้อย่างสวยงาม โดยการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ NL มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ ประมาณ 318.74 ล้านบาท ภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง นำเงินใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง จำนวน 50 ล้านบาท และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2567 จำนวน 268.74 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน นับเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมในการขยายแผนธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจก่อสร้างในอนาคต
ทั้งนี้ NL จึงพร้อมที่จะเดินหน้าเติบโตไปกับเม็ดเงินการลงทุนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังขยายตัว และเติบโตไปพร้อมกับเมกะเทรนด์ด้านเฮลท์แคร์อย่างต่อเนื่อง