โบรกมอง VGI ยังขาดทุน แม้ขายล้างพอร์ต KEX แนะ “ถือ” เป้า 2.45 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินเกี่ยวกับ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีผลขาดทุน 3.3 พันล้านบาท ซึ่งถ้าหากตัดการตั้งด้อยค่า 2.9 พันล้านบาท จากการลงทุน 2.5 พันล้านบาทในบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX จะทำให้ผลขาดทุนจากการดำเนินงานหลักอยู่ที่ 392 ล้านบาท ส่วนอิบิทด้าในไตรมาส 3/67 นั้นขาดทุน 297 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าผลขาดทุน 250 ล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้าจากต้นทุนที่สูงของการเปิดร้าน Turtle และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน

ทั้งนี้ รายได้จากการเดินทางเพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน แต่น้อยกว่าการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่ 9% ส่วนรายได้จากการให้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน ในขณะที่รายได้จากการจัดจำหน่ายลดลง 22% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับในช่วง 9 เดือนปี 67 ทาง VGI ซื้อหุ้นใน TURTLE เพิ่มจาก 59.99% เป็น 73.32% คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 212 ล้านหุ้น และเป็นเงิน 1.46 พันล้านบาท (6.91 บาทต่อหุ้น) ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลขาดทุนที่ VGI ได้รับจากผลประกอบการของ TURTLE จะอยู่ที่ 67 ล้านบาทในไตรมาส 3/67 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุน 43 ล้านบาทในไตรมาส 2/67 และ 33 ล้านบาทในไตรมาส 1/67 เนื่องจากมีการเปิดร้านค้า Turtle ใหม่หลายแห่งในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมานี้ จึงทำให้มีผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากมองไปยังแผนการขยายร้านค้าอีก 12 แห่งในปี 67 นี้ และจากการที่ VGI ถือหุ้นใน TURTLE เพิ่มขึ้น ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่จะฉุดการทำกำไรของ VGI และถ้าหากตัดรายได้จาก TURTLE ในไตรมาส 3/67 ออกจากรายได้การจัดจำหน่าย KKPS คาดการณ์ว่าจะเห็นการลดลงของรายได้จากการจัดจำหน่ายอื่นๆ (ส่วนใหญ่เป็นของ Fanslink) ราวเกือบ 50% จากปีก่อน

ทั้งนี้ การประกาศเทนเดอร์หุ้น KEX ของ SF Thailand ที่ราคา 5.5 บาทต่อหุ้น เริ่มทำให้มีคำถามเกิดขึ้นเกี่ยวกับการขายหุ้น KEX ที่ถืออยู่ออก ซึ่งทางบริษัทยังไม่มีการประกาศออกมาว่าจะขายสัดส่วน 15.45% ที่ถืออยู่ทั้งหมดหรือไม่ โดยผลขาดทุนจาก KEX นั้นอยู่ที่ 179 ล้านบาทในไตรมาส 3/67 เทียบกับ 137 ล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า และ 160 ล้านบาทในไตรมาส 1/67

ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าถ้า VGI ตัดสินใจขายหุ้นออก จะทำให้รายได้จากการถือครองกลับมาอยู่ในระดับกลาง ๆ เทียบกับการติดลบในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำกำไรในอนาคต อ

ย่างไรก็ตาม แม้จะขายหุ้น KEX ออกแล้ว ฝ่ายวิจัยยังมองว่าบริษัทจะยังเห็นผลประกอบการที่ติดลบอีกในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้านี้ จึงมีมุมมองให้ “ถือ” โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 2.45 บาท