“จุลพันธ์” ยันเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” รอ “รัฐบาล” ตอบข้อสักถามให้ชัดเจน

“จุลพันธ์” ยืนยันเดินหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ภายหลัง “รัฐบาล” รวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อสังเกต ป.ป.ช. และหน่วยงานต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (16 ก.พ.67) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลยังยืนยันเดินหน้ามาตรการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน “Digital Wallet” แต่กระบวนการทั้งหมดยังต้องรอ ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบ โดยเฉพาะเมื่อมีหน่วยงานตั้งข้อสังเกตต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการดังล่าว รัฐบาลจึงมีความจำเป็นต้องชี้แจงข้อสังเกตต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน

โดยในระหว่างนี้ รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในมิติต่างๆ อาทิ มาตรการในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย มาตรการในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนตลอดจนการลดราคาพลังงาน ซึ่งทั้งหมดเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยไม่ได้รอทำแค่มาตรการ “Digital Wallet” เพียงเรื่องเดียว

“ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย และยืนยันว่าไม่ได้ทำแค่มาตรการ “Digital Wallet” เพียงเรื่องเดียว โดยที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายหลายตัวที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ส่วน “Digital Wallet” ที่มีข่าวลือว่า จะทำหรือไม่ทำต่อนั้นขอยืนยันว่าเดินหน้าแน่นอน แต่ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ” นายจุลพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน “Digital Wallet” วานนี้ (15 ก.พ. 67) มีการดำเนินการใน 3 ส่วนสำคัญ คือ

  1. การตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องการใช้เงินผิดประเภท ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบจะต้องไปประชุมและวางกรอบแนวทางเพื่อป้องกันการใช้เงินผิดประเภท
  2. การตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน (Fact-Finding) ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบ เพื่อตอบคำถามจากหน่วยงานว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันวิกฤตหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ใช้อ้างอิงในรายงานความเห็นจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นข้อมูลช่วงปลายปี 66

“ขณะที่วันนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไปหมดแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องมาบอกให้เห็นภาพเศรษฐกิจในวันนี้ให้ชัดเจนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจมีอะไรที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูล เพื่อชี้แจงข้อสังเกตที่ ป.ป.ช. ถามมา โดยในส่วนนี้จะใช้เวลาดำเนินการภายใน 30 วัน” นายจุลพันธ์ กล่าว

  1. มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไปดูเรื่องการเชื่อมระบบกับภาพรวม ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไร และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างครอบคลุม รวมถึงเรื่องการใช้ระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการทุจริต

ส่วนกรณีที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.  ตั้งข้อสังเกตและแสดงความเป็นห่วงถึงความเหมาะสมในการใช้ระบบ “บล็อกเชน” พร้อมแนะนำให้ดำเนินการผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” หรือให้พิจารณาวิธีอื่นที่อาจจะดีกว่านั้น กระทรวงดีอีจะไปดำเนินการในส่วนนี้ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลยืนยันแล้วว่า “Digital Wallet” จะดำเนินการผ่าน “เป๋าตัง”

นอกจากนี้ที่ประชุมมีการพูดคุยกันอย่างครบถ้วนและหลากหลายทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงบประมาณ, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการคลัง, ดีอี, ตำรวจ และตำรวจไซเบอร์ โดยในส่วนของ ธปท. นั้นได้ให้ความเห็นในที่ประชุมว่าการตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ดีมาก จะได้รู้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเป็นอย่างไร

Back to top button