“ครม” เคาะ “ราคาอ้อย” ขั้นต้นฤดูผลิตปี 66/67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
“ครม” เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้าย-ผลตอบแทนการผลิตฤดูการปี 65/66 และราคาอ้อยขั้นต้นปี 66/67 ทั้ง 9 เขต ราคา 1,197-1,420 บาท/ตัน สูงเป็นประวัติการณ์ พร้อมเร่งรณรงค์ให้เกษตรกรลดการเผาไหม้ไร่อ้อยลง
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (20 ก.พ. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2566/2567 ทั้ง 9 เขต ซึ่งคำนวณราคาอ้อยเป็นราคาเดียวทั่วประเทศ ในอัตรา 1,420 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.2 หรือเท่ากับ 91.43% ของประมาณการราคาอ้อยเฉลี่ยทั่วประเทศ 1,674.64 บาทต่อตันอ้อย) และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 85.20 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. พร้อมทั้งกำหนดผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/2567 เท่ากับ 608.57 บาทต่อตันอ้อย
“โดย ครม.เห็นชอบให้ประกาศราคาขั้นต้นตันละ 1,420 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หากเทียบกับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตที่แล้วแค่ตันละ 1,080 บาท สูงกว่าปีที่แล้วตันละ 340 บาท หรือคิดเป็น 31.40% เมื่อราคาดีอย่างนี้ อยากให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรณรงค์ให้เกษตรกรลดการเผาก็จะได้โบนัสพิเศษจากรัฐบาล” นายชัย วัชรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. มีมติให้ความเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2565- 2566 ในอัตรา 1,197.53 บาท/ต้นอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย เท่ากับ 71.85 บาท/1 หน่วย ซี.ซี.เอส. พร้อมทั้งกำหนดผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2565/2566 เท่ากับ 513.23 บาท/ต้นอ้อย
“ทั้งนี้ ราคาขั้นสุดท้ายสูงกว่าขั้นต้นตันละ 117.53 บาท ทำให้ชาวไร่อ้อย 4 แสนราย มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 13,280 ล้านบาท” นายชัย กล่าว