SAV โชว์กำไรปี 66 โต 36% แตะ 272 ล้าน เร่งเจรจาสัมปทานวิทยุการบิน “สปป.ลาว”
SAV โชว์กำไรปี 66 โต 36% แตะ 272 ล้านบาท กวาดรายได้ 1.6 พันล้านบาท คาดปี 67 โตต่อเนื่องตามธุรกิจการบินอาเซียน เร่งเจรจาสัมปทานวิทยุการบินในสปป.ลาว ชี้ตลาดใหญ่ ปริมาณเที่ยวบินสูงกว่ากัมพูชา 2 เท่าตัว
นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV หนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการบิน ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานการจัดการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาเพียงรายเดียว เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,647.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 35.1% หรือ 427.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยบริษัทฯมีรายได้จากการบริการตามสัญญาสัมปทาน จำนวน 1,501.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 415.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 38.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นเป็น 92,685 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 35.5% หรือ 24,295 เที่ยวบินจากปี 2565
โดยแบ่งรายได้การบริการออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) จำนวน 998.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลัก เนื่องจากกัมพูชาอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ดี ทำให้เที่ยวบินที่จะไปเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่สำคัญในอาเซียน เช่น ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ต้องบินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา
รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) จำนวน 490.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.4% เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะหลังหมดสถานการณ์โควิด-19
รายได้ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing & Take-off: Domestic) จำนวน 11.6% เพิ่มขึ้น 15.9%
สำหรับในงวดปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 271.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72 ล้านบาท เติบโตขึ้น 36.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้จากการบริการเติบโตขึ้น และมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด อนึ่งบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายการตัดจำหน่ายภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จำนวน 88.5 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับเงินปันผลจากบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) จำนวน 25.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในไตรมาส 4 นั้นมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ จำนวน 1.15 ล้านเหรียญ หรือจำนวน 41 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายของประเทศกัมพูชาเท่ากับร้อยละ 14.00 แต่เนื่องจากประเทศไทยและประเทศกัมพูชามีอนุสัญญาภาษีซ้อน ซึ่งกำหนดให้มีการหักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เท่ากับ ร้อยละ 10.00 ของจำนวนเงินปันผล
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะจ่ายเงินปันผลจากบริษัท CATS มาที่ SAV ทุกๆไตรมาสเพื่อให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คงที่ในทุกๆไตรมาส อีกทั้งบริษัทฯ มีรายการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 9.0 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว เนื่องจากบริษัทฯ นำเงินที่ได้รับเงินจากการขายหุ้น IPO ซึ่งเป็นสกุลเงินบาทไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวให้แก่สถาบันการเงินซึ่งเป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐรวมจำนวน 1,169.8 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวทั้งจำนวนแล้ว เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 และยังจ่ายชำระคืนกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 258.7 ล้านบาท จึงทำให้ปัจจุบัน SAV เป็นบริษัทฯที่ไม่มีหนี้สินทางการเงินและไม่มีภาระดอกเบี้ย และ มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2566 จำนวน 480 ล้านบาท
สำหรับปี 2567 บริษัทฯคาดว่า อุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเที่ยวบินมาประเทศไทยและเวียดนามจะยังคงมีการขยายตัวอยู่ซึ่งจะทำให้ปริมาณเที่ยวบินผ่านกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 22% – 25% ทำให้รายได้ของ SAV เติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน ขณะเดียวกัน คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวมายังกัมพูชาจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้รายได้จากเครื่องบินขึ้นลงจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน” นายธีระชัยกล่าว
ด้าน นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาธุรกิจสัมปทานวิทยุการบินในประเทศ สปป. ลาว เนื่องจากธุรกิจการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศในประเทศ สปป. ลาว มีศักยภาพสูง มีจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด มากกว่าจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาถึง 2-3 เท่าตัว และมีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปริมาณเที่ยวบินที่บินผ่านมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น
โดยที่ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 23 ล้านคนและจำนวนเที่ยวบินจากประเทศจีนคาดว่าจะกลับมาอย่างมีนัยยะ ที่สำคัญบริษัทฯกำลังดำเนินการจัดตั้งบริษัท ลาว สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด สำหรับนโยบายการจ่ายปันผล ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมตินำเสนอแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณางดการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 โดยจะมีแผนเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจใหม่ และนำไปต่อยอดในธุรกิจเดิมที่มีอยู่ แต่จะมีการนำเสนอแก่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลในรอบถัดไปแทน”
ขณะที่ปัจจุบัน SAV ได้มีการถือสัดส่วนร้อยละ 100 ใน บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (CATS) ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่ประกอบธุรกิจดําเนินการจัดตั้งระบบและให้บริการควบคุมการจราจรในกัมพูชา โดยมีสัมปทานยาวนานกว่า 49 ปี มีความมั่นคงทางธุรกิจสูง และอยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทางอากาศซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว