NL จ่อปิดดีล 4 โครงการโรงพยาบาลรัฐ-เอกชน จับตาแจ้งงบ 28 ก.พ.นี้
NL ลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง จ่อปิดดีล 4 โครงการโรงพยาบาลรัฐ-เอกชน จับตาแจ้งงบปี 66 วันที่ 28 ก.พ.นี้ ตุนแบ็กล็อกกว่า 2 พันล้านบาท ด้านโบรกฯแนะลงทุนเคาะเป้าสูง 7.50 บาท ลุ้นกำไรปี 66-68 โตต่อเนื่อง
นายศรันย์ โรจน์เลิศจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2567 ยังเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่จำนวน 3 โครงการ โดยแบ่งเป็นงานโรงพยาบาลภาครัฐ 2 โครงการ และงานโรงพยาบาลภาคเอกชน 1 โครงการ โดยงานโรงพยาบาลภาครัฐรอผลประมูล 1 แห่ง และอีกแห่งจะเสนอราคาเร็วๆนี้ ส่วนงานภาคเอกชนเสนอราคาไปแล้วรอผลเช่นกัน
ล่าสุดวานนี้(21ก.พ.67) บริษัทได้รับการติดต่องานเข้าประมูลงานภาคเอกชนเพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นงานโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นคาดว่าโครงการดังกล่าวจะชัดเจนและเริ่มประมูลได้ภายในกลางปีนี้
อย่างไรก็ตามการได้รับความสนใจจากภาคเอกชนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณจากการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดฯทำให้บริษัท NL เป็นที่รู้จักและมีโอกาสได้รับงานภาคเอกชนมากขึ้น ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่เคยคาดหวังไว้แต่ไม่คิดว่าจะเห็นผลเร็วขนาดนี้
สำหรับผลงานประกอบการปี 2566 บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่ออนุมัติงบการเงินและแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 28 ก.พ.2567 ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2567 หลังผ่านไปเกือบสองเดือนคาดว่ายังสดใส แม้ว่าการอนุมัติงบประมาณปี 2567 จะล่าช้าและกระทบโครงการภาครัฐ แต่บริษัทได้รับงานเอกชนเข้ามาแทน อย่างไรก็ตามจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นหลังจากงบปี 2566 ออกมาและจะเห็นแนวโน้ม Backlog มากขึ้น
ทั้งนี้ ณ สิ้นงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,107.25 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ ถึงปี 2568 และบริษัทยังเดินหน้าประมูลงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 ของ NL อยู่ที่ 132 ล้านบาท, กำไรสุทธิในปี 67 จะอยู่ที่ 170 ล้านบาท และอยู่ที่ 217 ล้านบาทในปี 68 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญคือ 1) การเติบโตของรายได้จาก Backlog จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นงานโรงพยาบาลและงาน EPC ที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล 2) กำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น โดยอัตรากำไรและอัตรากำไรสุทธิ เป็นผลมาจากการปรับปรุงการดำเนินงานภาระหนี้เป็นต้นทุนคงที่ที่สูงของ NL อยู่ที่ 50%-60% ของต้นทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงราคาเป้าหมายการประเมินมูลค่าของ NL ที่ 7.50 บาท โดยใช้ P/E ล่วงหน้า อยู่ที่ 22 เท่า และประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 67 อยู่ที่ 0.34 บาท โดยเชื่อว่าเชื่อว่าเป็นการมาณสมเหตุสมผลจากความสามารถในการทำกำไรที่เหมาะสมของ NL ที่ 5.5%-6.5% ของกำไรสุทธิอัตรากำไรขั้นต้น ROE อยู่ที่ 13.0% ถึง 14.5% และการเติบโตของกำไรสุทธิ 55% CAGR ในปี 65-68
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ประเมินว่าราคาเหมาะสมของ NL ในปี 2567 อยู่ที่ 6 บาทต่อหุ้น (บนสมมติฐาน P/E เหมาะสมที่ 18 เท่า) คาดว่า NL จะมีกำไรสุทธิในปี 2566 เพิ่มขึ้น 165.1% อยู่ที่ 153 ล้านบาท จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการกลับมาเปิดประมูลโครงการงานก่อสร้าง ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ตามปกติ หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และคาดกำไรสุทธิในปี 2567 จะเติบโต 9% อยู่ที่ 167 ล้านบาท เนื่องจากการเข้าร่วมประมูลงานโครงการก่อสร้างที่มีความซับซ้อน (สถานพยาบาล) ซึ่ง NL มีความเชี่ยวชาญ
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ NL ไว้ที่ 5.90 บาทต่อหุ้น อิง P/E ปี 2567 ที่ 19.5 เท่า ซึ่งจากการประมาณการกำไรปี 2567 อยู่ที่ 151 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 2566 ที่คาดว่าจะมีกำไร 129 ล้านบาท เติบโต 125% จากปีก่อน โดยมาจากการเข้าประมูลโครงการที่สูงขึ้น รวมถึงมีการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพหนุนอัตรากำไรสุทธิและการเติบโตระยะยาว
ด้านราคาหุ้น NL ปิดวานนี้ (21 ก.พ.67) อยู่ที่ระดับ 2.74 บาท ลบ 0.36 บาท หรือลดลง 11.61% ราคาต่ำสุดเ 2.74 บาท ราคาสูงสุด 3.14 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 318.63 ล้านบาท