SPALI ตั้งเป้ายอดขายปี 67 “ออลไทม์ไฮ” แตะ 3.6 หมื่นล้าน เตรียมผุด 42 โครงการ
SPALI กางแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าเปิดตัวโครงการกว่า 42 โครงการ มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายแตะ 36,000 ล้านบาท อาจทำออลไทม์ไฮ หลังตุนแบ็กล็อก 1.4 หมื่นล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ว่าผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5,989 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,173 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมในปี 2566 อยู่ที่ 31,818 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 30,836 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน
ขณะที่ยอดขายอยู่ที่ 28,864 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายจากคอนโดมิเนียมภายในกรุงเทพฯในสัดส่วน 29%, คอนโดมิเนียมในภูมิภาค 3%, ยอดขายจากแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ 24% และแนวราบในภูมิภาค 44%
อย่างไรก็ดีการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์จากโครงการแนวราบมีการเติบโตขึ้น และส่วนที่ลดลงเป็นการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์จากโครงการคอนโดมิเนียมลดลง ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จเพียงแค่ 2 โครงการ สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นบริษัททำได้อยู่ที่ 35.6% ลดลงจากปี 2565 ที่ทำได้ 39% เนื่องจาก 2 สาเหตุหลัก คือ การโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้น 66% และการร่วมทุนกับโครงการ JV ในออสเตรเลีย ที่ได้รับผลกระทบจาดอัตราดอกเบี้ยในออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้น
“บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 ทำออลไทม์ไฮ และในส่วนของรายได้คาดการณ์ว่าในปี 2567 จะเป็นอีกปีที่จะมีการเติบโตของรายได้ที่ชัดเจน ซึ่งในอนาคตจะมีการเปิดตัวโครงการมากกว่า 40 โครงการ ในมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นปีที่บริษัทมีการรุกทำการตลาดอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผลที่เชื่อว่า Market Consolidation มีโอกาสรออยู่ในตลาดค่อนข้างมาก” นายไตรเตชะ กล่าว
นางสาวรวีวรรณ วงศ์สินสกุล ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ SPALI กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 42 โครงการ มูลค่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการเกินครึ่งของแผนเปิดตัวโครงการทั้งหมด เนื่องจากมีการเลื่อนโครงการที่มีแผนจะเปิดตัวในปีที่แล้วมาเปิดตัวในปีนี้แทน โดยได้มีการตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 อยู่ที่ 36,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยแบ่งสัดส่วนออกยอดขายจากคอนโดมิเนียม 24% และยอดขายแนวราบที่ 76% และคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดโครงการได้มากกว่า 20 โครงการ
อย่างไรก็ดีในปี 2567 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ 36,000 ล้านบาทเช่นเดียวกับยอดพรีเซล (Pre-Sale) อีกทั้งยังมีแบ็กล็อก รออยู่ที่ 15,700 ล้านบาท เนื่องจากสัดส่วนในการโอนมาจากส่วนของแนวราบและคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมขาย พร้อมโอนที่มีอยู่ในสต็อก ดังนั้นคาดการณ์ว่าแบ็กล็อกจำนวน 13,503 ล้านบาทในช่วงต้นปี บวกกับยอดขายที่รอโอนภายในปีนี้รวมไปถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ภายในครึ่งแรกของปี 2567 จากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมาย 36,000 ล้านบาท
โดยในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทมีการเปิดตัวไปแล้วทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่าอยู่ที่ 8,250 ล้านบาท และในส่วนของแผนเปิดตัวโครงการในไตรมาส 1/2567 มีทั้งหมด 14 โครงการ ซึ่งในปี 2567 มีคอนโดมิเนียมที่รอการโอนทั้งหมด 5 โครงการ ได้แก่ ศุภาลัย ซิตี้ โฮม ระยอง, City Home Sanambinnam-Rattanathibet, ศุภาลัย ไอคอน สาทร, Supalai Premer Samsen-Ratchawat, Supalai Loft Phasi Charoen Station
“ในส่วนของแบ็กล็อกที่มียอดรอการโอนที่น้อยลงแต่มีการตั้งเป้า Target ที่เพิ่มขึ้นนั้น สาเหตุมาจากการที่บริษัทมีการสลับมาเปิดตัวโครงการแนวราบเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา อีกทั้งช่วงของตลาดคอนโดฯ เริ่มมีการซื้อขายที่เบาบางลง ซึ่งแบ็กล้อกส่วนใหญ่เกิดจากตลาดคอนโดมิเนียมมากกว่า เนื่องจากคอนโดมิเนียมมีการเปิดขายแบบพรีเซล และคาดการณ์ว่าสัดส่วนของยอดขายจะมาจากแนวราบประมาณ 80%” นายไตรเตชะ กล่าวทิ้งท้าย