ORN กำไรปี 66 แตะ 180 ลบ. จ่ายปันผล 0.05 บาท ขึ้น XD 7 พ.ค. 67
ORN กวาดรายได้ปี 66 แตะ 1,111 ล้านบาท กำไรแตะ 180 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.05 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. 67 พร้อมกางแผนไตรมาส 1/67 รุกเปิดโครงการใหม่ ชูทำเลใกล้เคียงสิ่งอำนวยความสะดวก-ระบบ Comfort Air ป้องกันฝุ่น pm 2.5 เดินหน้าเปิดโรงเรียนนานาชาติ หนุนรายได้เข้าเป้า
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ ORN เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/2567 บริษัทเร่งเดินหน้า พัฒนาโครงการใหม่ ภายใต้กลยุทธ์จุดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง ที่มีความสะดวกในการคมนาคม ใกล้เคียงห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และตลาด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ตอบโจทย์ พร้อมนำนวัตกรรมที่หลากหลายเข้ามาใช้กับทุกโครงการ ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของลูกบ้าน อาทิ ระบบ Comfort Air ป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่น pm 2.5 ได้สูงสุดถึง 99.6%, ระบบ smart home และระบบ EV Charger เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการยังมีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยติดตั้งระบบ Solar Cell เพื่อประหยัดพลังงาน กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ สร้างยอดขายในทุกโครงการ
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่โรงเรียนนานาชาติ Mill Hill และ Lifestyle Market โดยอยู่ระหว่างการออกแบบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประจำเข้ามาเพิ่มในอนาคต
สำหรับผลประกอบการงวดปี 2566 มีรายได้รวม 1,111.47 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,534.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 180.51 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 280.92 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 4/2566 บริษัทเลื่อนแผนการเปิดโครงการอรสิรินวิลล์ โชตนา ออกไปจากช่วงต้นไตรมาส 4/2566 เป็นปลายไตรมาส 4/2566 และโครงการอรสิรินวิลล์ท่ารั้ว เลื่อนเปิดโครงการจากไตรมาส 4/2566 ออกไปในไตรมาส 1/2567 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์และทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มเติมตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของกิจการลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยยะสำคัญ คือ รายจ่าย One-time expenses จำนวน 24 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน
นอกจากนี้ในปี 2565 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการดิแอสตร้าสกาย ริเวอร์ โครงการแนวสูงขนาดใหญ่ซึ่งเป็น Flagship Project ของบริษัท ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2565 บริษัทจึงมีรายได้จากโครงการดังกล่าวอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้เมื่อพิจารณาอัตราการทำกำไรขั้นต้นของโครงการแนวสูง จะเห็นว่าอัตรากำไรขั้นต้นในส่วนโครงการแนวสูงในปี 2566 เท่ากับร้อยละ 47.02 สูงขึ้นร้อยละ 1.45 เมื่อเทียบกับงวดปี 2565 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นในส่วนของโครงการแนวสูงคิดเป็นร้อยละ 45.57 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการควบคุมต้นทุนได้ดี และคงรักษาระดับการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกระแสตอบรับที่ดี โดยมียอดขายโครงการแนวราบ และแนวสูง เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 799 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 จนถึงปี 2568
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลประจำปี 2566 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท คิดเป็นจำนวนเงินปันผล 75 ล้านบาท โดยบริษัทมีการจ่ายปันผลในปี 2566 แก่ผู้ถือหุ้น นับรวมการจ่ายปันผลในครั้งนี้เกินกว่า 40% ของกำไรสุทธิซึ่งเป็นไปตามนโยบายบริษัท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 และมีกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2567