โบรกคัด 6 หุ้นเด่น รับส่งออก ม.ค. ขยายตัว 10%
โบรกมองพาณิชย์ เผยส่งออกไทย ม.ค. 67 ขยายตัว 10% มีมูลค่า 784,580 ล้านบาท สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.8% และโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 มีมุมมองบวกต่อ 6 หุ้น ได้แก่ GFPT, STA, NER, STGT, ITC, TU
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณี นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนมกราคม 2567 ว่า การส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2567 มีมูลค่า 22,649.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (784,580 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ 10%
โดยแนวโน้มการส่งออกในปี 2567 การส่งออกไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าตาม ภาวะเงินเฟ้อโลกที่เริ่มชะลอตัว การได้รับอานิสงส์จากมาตรการรักษาความมั่นคงทางด้านอาหารของหลายประเทศ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการทำงานในการผลักดันการเติบโตของมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2567 ที่ร้อยละ 1-2
ทั้งนี้สอดคล้องกับทางฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ส่งออกไทยเดือนมกราคมขยายตัว 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 22,649.9 ล้านเหรียญฯ สูงกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้เติบโต 7.9% ซึ่งขยายตัวในทุกกลุ่มสินค้า
1) สินค้าเกษตรเติบโต 14% ได้แก่ ข้าว +45.9%, ยางพารา +5.5%, ไก่ +5%
2) อุตสาหกรรมเกษตร +3.8% (เครื่องปรุง +23.3%, อาหารสัตว์เลี้ยง +9.1%, อาหารทะเลกระป๋อง แปรรูป +5.2%)
3) อุตสาหกรรม +10.3% (เหล็ก +106.3%, คอมพิวเตอร์ +32.2%, เครื่องจักร +7.6%, ผลิตภัณฑ์ยาง +3.7%) ตลาดที่ขยายตัวเด่น นาโดย ฮ่องกง, CIS, ออสเตรเลีย, อาเซียน ได้แรงหนุนจากภาคการผลิตทั่วโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับความต้องการสินค้าเกษตรยังดี และสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กลับมาฟื้นตัว
ดังนั้น หุ้นที่ได้ sentiment บวก ได้แก่ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ประกอบธุรกิจการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ปู่ย่าพันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจรในหลากหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำการทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น รวมถึงธุรกิจปลายน้ำในการผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง และสินค้าสำเร็จรูป
บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางที่ใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่น โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง ถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง และถุงมือยางไนไตรล์
บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ประกอบธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง และขยายธุรกิจให้ครบวงจรด้วยธุรกิจอาหารสำเร็จรูปและอาหารว่าง โดยเน้นอาหารทะเล ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ ธุรกิจการตลาดภายในประเทศ ธุรกิจอาหารสัตว์
ทั้งนี้ประเมิน TU คาดการณ์ว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 6.5 พันล้านบาท เพราะจะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุน Red Lobster ประมาณ 1,200 ล้านบาทอีกต่อไปใน ปี 2567
สำหรับผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลัก คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 5.2% ในปี 2567 เป็น 1.432 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตในระดับปกติ และ อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 0.5ppt เป็น 17.6% เนื่องจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าอาจจะลดลง