CHAYO รายได้ดอกเบี้ย-ค่าเช่าโต ดันกำไรปี 66 พุ่งแตะ 390 ล้านบาท
CHAYO รายงานกำไรปี 66 โต 55% มาที่ 390 ล้านบาท รับรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อ รวมถึงรายได้จากค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 และงวดปี 66 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
โดยบริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงานของบริษัท ประจำปี 66 ทั้งสิ้น 1,527.07 ล้านบาทโดยเพิ่มขึ้นจากปี 65 จำนวน 527.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 52.83 โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพและรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมจำนวน 480.00 ล้านบาท และ 32.38 ล้านบาทตามลำดับ นอกจากนี้ในปี 66 มีรายได้จากธุรกิจบริการจัดหาคนอีก จำนวน 17.55 ล้านบาท
ด้านรายได้จากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ สำหรับปี 66 บริษัทมียอดจัดเก็บจากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและยอดรายได้จากการขายหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพ จำนวน 439.06 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนอยู่จำนวน 98.63 ล้านบาทหรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.46 โดยที่ยอด จัดเก็บหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีการซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่ มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลให้ปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่รายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สินในปี 66 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สินจำนวน 33.72 ล้านบาท โดยลดลงจากปี 65 จำนวน 1.32 ล้านบาท หรือลดลงเท่ากับร้อยละ 3.76 มีสาเหตุจากในปีนี้บริษัทมีการการมอบหมายพนักงานให้ติดตามทวงถามพอร์ตหนี้เสีย ที่กลุ่มบริษัทซื้อมากขึ้น ส่งผลให้การรับงานติดตามทวงถามหนี้ของผู้ว่าจ้างภายนอกลดลงเล็กน้อย
ส่วนรายได้อื่นๆ ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าเช่า รายได้อื่นของบริษัทในปี 66 มีจำนวนเท่ากับ 13.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 4.65 ล้านบาท มีสาเหตุการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากบริษัทมีการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเงินฝาก จากธนาคารเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปี 66 บริษัทมีกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายจำนวน 88.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 65 จำนวน 39.16 ล้านบาท มีสาเหตุของการเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีการขายทรัพย์สินรอการขายได้เพิ่มขึ้น (ทั้งนี้สินทรัพย์รอการขายหรือ NPA เกิดจากการที่บริษัทประมูลหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพที่บริษัทซื้อมาจากสถาบันการเงินกลับมาเป็น สินทรัพย์รอการขายของบริษัทและการซื้อ NPA ตรงจากสถาบันการเงิน)