IRPC อัดงบลงทุน 5 ปี เฉียด 1.4 หมื่นล้าน ปรับแผนธุรกิจปิโตรฯ

IRPC กางแผน 5 ปี ทุ่มเงิน 1.38 หมื่นล้าน ปรับแผนธุรกิจปิโตรฯ ลดต้นทุนการผลิต และขยายธุรกิจพร้อมเดินหน้ามุ่งสู่การเป็น Net Zero ภายในปี 60


นางสาวเอธิตา อนันตธุรการ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน (Opportunity Day) จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ว่าผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2,923.17 ซึ่งปรับตัวดีขึ้น 33.01% บริษัทมีรายได้รวม 319,900.04 ล้านบาท ลดลง 1.97% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 326,338.16 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง 22 % ตามน้ำมันดิบ รวมไปถึงราคาน้ำมันดิบดูไบที่มีการปรับตัวลดลงจากปีที่แล้วอยู่ประมาณ 14 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว รวมไปถึงเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวตามตลาดคาดการณ์์

อีกทั้ง เป็นผลจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน ประกอบกับการล้มละลายของธนาคารในสหรัฐ ยุโรป ส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันทั่วโลก และสถานะการเงินเฟ้อที่กดดันความต้องการ ส่งผลให้บริษัทมีการสต๊อกน้ำมัน 2,488 ล้านบาท หรือ 1.02 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่มีแนวทางการปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์การตลาดในอนาคตจากผลกระทบด้านภาวะ “Down Trend” ตลาดปิโตรเคมีขาลง

นางสาวเอธิตา กล่าวอีกว่า บริษัทฯมีแผนเดินหน้าเพิ่มยอดขายสินค้าชนิดพิเศษ อาทิ กลุ่มธุรกิจรถยนต์ได้ร่วมทุนกับบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น 2 บริษัท และยังมีการศึกษาเพื่อขยายธุรกิจอีกมากมาย โดยบริษัทฯวางงบลงทุนจำนวน 1.38 หมื่นล้านบาท ช่วงระยะเวลา 5 ปี (67- 71) ยังไม่นับรวมโปรเจ็กต์ลงทุนใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการหลายโครงการ (Project on hand) เพื่อเสริมทั้ง 5 ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ อาทิ กลุ่มธุรกิจ Life Science ทั้งหน้ากากอนามัย, ผ้าซับน้ำมัน, ฟีลเตอร์กรองน้ำ-อากาศ, กลุ่มธุรกิจ Advanced Material อย่างท่อเพื่อการก่อสร้าง และการศึกษาการทำแบตเตอรี่, Green& Circular ธุรกิจรีไซเคิล, กลุ่มธุรกิจ Future Energy พลังงานสะอาด และ กลุ่มธุรกิจ Assets & Services การจัดสรรที่ดินร่วมลงทุนกับพันธมิตร เป็นต้น

ขณะที่ในปี 2567 บริษัทมีแนวทางเพื่อการปรับปรุงในหลายเรื่อง ทั้งการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันและลดต้นทุนการผลิตอย่างน้ำมันดิบให้ต่ำลง, ลดต้นทุนกระบวนการผลิต ทั้งการกลั่น ผลิตปิโตรเคมี อีกทั้ง มีแผนงานแยกธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เพื่อให้ความยืดหยุ่นในการผลิตด้านราคาขายและต้นทุนมากที่สุด

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ผลิตน้ำมันดีเซลยูโร 5 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถลดการส่งออกดีเซลยูโร 4 ที่มี “มาร์จิ้น” น้อยกว่าลง และได้ทำสัญญาร่วมกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 รวมถึงศึกษาหาตลาดเพิ่มเติมจากเดิมที่มุ่งเป้าประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจหลายด้าน โดยประเทศที่บริษัทสนใจเพื่อขยายตลาดนั้น คือ อินเดีย ทั้งนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาเพราะถือเป็นประเทศที่มีการบริโภคค่อนข้างสูง

นางสาวเอธิตา กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนธุรกิจนิคมที่มีการทำพื้นที่จัดสรรร่วมลงทุนกับกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ภายใต้ชื่อ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง จำกัด หรือ WHAIER เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งการร่วมทุนกับ WHA ในครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถรับรู้รายได้และกำไรให้บริษัทได้ในปี 2567 พร้อมทั้งจะมีการขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการลงทุนร่วมพัฒนาธุรกิจโรงพยาบาลระหว่างโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกและโรงพยาบาลปิยะเวทเพื่อศึกษาการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและพัฒนาธุรกิจศูนย์พักและฟื้นฟูสุขภาพ (Hospital & Wellness center) ในพื้นที่ จังหวัดระยอง ซึ่งบริษัทนำทรัพย์สินที่ดินเพื่อร่วมลงทุนกับพันธมิตร ขณะนี้มีการดำเนินงานขายที่ดินประมาณ 70% โดยปัจจุบันเริ่มมีความชัดเจนเรื่องการเซ็นสัญญาลงทุนแล้ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะสามารถลดผลกระทบจากสถานการณ์ตลาดได้

ทั้งนี้ ยังมีการร่วมมือกับ บริษัท พี.ซี. สยามปิโตรเลียม จำกัด เปิดคลังน้ำมันร่วม ที่ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจะขยายธุรกิจไปยังภาคใต้ของประเทศ สร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน อีกทั้งลงนามกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เพื่อซื้อน้ำมันดิบร่วมกัน โดยมีเป้าหมายให้ได้ราคาที่เหมาะสม และนำไปจัดจำหน่ายร่วมกัน

นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน “Sustainability” ซึ่งถือเป็นแนวทางที่บริษัทคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน ทั้ง สิ่งแวดล้อม สังคม ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ธุรกิจ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล พร้อมมุ่งสู่การเป็น “Net Zero” ภายในปี 2060 รวมถึงเป็นไปตามวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว” หรือ To Shape Material and Energy Solutions in Harmony with Life

Company Snapshot

 

 

Back to top button