TKC กวาดรายได้ปี 66 แตะ 3.9 พันล้าน บอร์ดเคาะปันผล 0.15 บ. ขึ้น XD 26 เม.ย.นี้
TKC โชว์ผลงานปี 66 โกยรายได้แตะ 3.9 พันล้านบาท โต 57% หลังรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ บอร์ดเคาะปันผล 0.15 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 26 เม.ย.67 กำหนดจ่าย 15 พ.ค. 67 วางเป้ารายได้ปี 67 โต 10% ตุนแบ็กล็อก 3.2 พันล้านบาท ลุยธุรกิจเมกะเทรนด์
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัทฯ ในงวดปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 250.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 3,886.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,424.65 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.87% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,461.88 ล้านบาท
โดยรายได้หลักแบ่งเป็นรายได้จากงานโครงการ 1,745.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 460.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.89% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินงานในปี 2566 ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งงานระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบความปลอดภัยของสาธารณะ และระบบบริการดิจิทัล
ขณะที่ มีรายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 1,053.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.38% เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการในปี 2566 ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการพัฒนาทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัลและมีรายได้จากการขาย 1,059.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 781.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 281.32% เทียบกับปี 2565 เนื่องจากการขายเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
“ในงวดปี 66 ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1,424.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.87% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้งานโครงการอุปกรณ์โครงข่าย (Network Equipment) ของโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz และโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน และโครงการขยายบริการคลาวด์กลางภาครัฐ” นายสยาม กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมาที่ประชุมคณะกรรมการมีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสม สำหรับผลประกอบการงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 โดยจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 60,000,000 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 29 เมษายน 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 26 เม.ย. 2567 พร้อมจ่ายเงินปันผลวันที่ 15 พ.ค. 2567 ทั้งนี้จะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 19 เม.ย 2567 เพื่อพิจารณามติดังกล่าว
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในปี 2567 มั่นใจยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีเป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้ และเดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้เติบโตในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 10% จาก 8 กลุ่มธุรกิจของบริษัท พร้อมกันนี้ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีทีต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต อาทิ ระบบ Smart Solutions โดยมุ่งเน้น Smart Hospital, Smart Farming, Smart Logistics, Cyber Security, Smart Learning และ Smart Platform ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ร่วมกับการสร้างและออกแบบเน็ตเวิร์กและเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ ซึ่งในตอนนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท คาดการณ์จะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 60% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% ของการเข้าร่วมประมูล ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทปัจจุบันมาจากลูกค้าเอกชน 30% และรัฐบาล 70% ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนให้เป็น 40 : 60% ในอนาคต
“นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมและไอซีทีที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจด้าน Cyber Security ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5% จากรายได้ทั้งหมด และในปีถัดไปจะเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก ไปอีก 5 ปีต่อจากนี้ โดยมองว่าในปี 2567 จะได้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้เพิ่มเฉลี่ยอย่างน้อยปีละ 7-10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ประมาณ 35% ของพอร์ตรายได้รวม” นายสยาม กล่าว