YGG ปักธงปี 67 รายได้ “นิวไฮ” รับดีมานด์ “เกม-ภาพยนตร์” โตต่อเนื่อง
YGG กางแผนปี 67 เร่งเตรียมงาน Production เพื่อรองรับการผลิตแอนิเมชั่น-VFX จากกลุ่มลูกค้าใหม่ คาดการเปลี่ยนแปลง “Base Line” ด้านงานบริการโต 30% ตั้งเป้าธุรกิจ “เกม-ภาพยนตร์” สร้างรายได้ “นิวไฮ” ในอนาคตรับดีมานด์ที่มีอย่างต่อเนื่อง
นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG กล่าวว่า ปี 2567 เป็นปีที่ท้าทายของบริษัท ในการเตรียมงาน Production รองรับการผลิต แอนิเมชั่น และ VFX จากกลุ่มลูกค้าใหม่ คาดการณ์ว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง Base Line ขยับสู่การเติบโตด้านงาน Service 30% ภายหลังจากผ่านการทดสอบคุณภาพของกลุ่มลูกค้า พร้อมชูจุดเด่นความเชี่ยวชาญ ด้านงานเกม ต่อยอดการให้บริการผลิตเกมทั้งในไทยและต่างประเทศ
ด้านการผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวูด “Home Sweet Home Rebirth” คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2567 และเตรียมแตกขยายการรับรู้รายได้รูปแบบใหม่ของบริษัท ซึ่งล่าสุดได้รับการติดต่อจากแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่หลายรายจากฝั่งอเมริกาให้ความสนใจซื้อสิทธิ์ในการฉาย เนื่องจากมีความประทับใจในบทบาท นักแสดง และเค้าโครงเรื่องจาก Video game “Home Sweet Home” ที่มีผู้ติดตามจากทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับกระแสความนิยมหนังแนวเขย่าขวัญ เหนือธรรมชาติ มั่นใจได้รับความสนใจจากคนดูทั่วโลก
อย่างไรก็ดีในปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการพลิกโฉมธุรกิจ ที่กลุ่ม YGG มุ่งสู่ธุรกิจต้นน้ำอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมการเตรียมการด้านเครือข่ายสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัท ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดผลิตภัณฑ์ในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ทั้งส่วนภาพยนตร์, เกม, แอนิเมชั่น และ คอมพิวเตอร์กราฟิก
นายธนัช กล่าวว่า ในส่วนแผนในการพัฒนาเกมใหม่ๆ ในปี 2567 จะมีการปล่อยเกมออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงต้นไตรมาส 2/2567 ได้เตรียมเปิด Soft Launch เกม “Nine Eyes” หลังจากใช้เวลาพัฒนามากว่า 2 ปี เพื่อให้เป็นเกมที่สมบูรณ์ที่สุด คาดว่ารายได้จาก เกม “Nine Eyes” จะทยอยรับรู้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 โดยกลุ่มเป้าหมายของผู้เล่นจากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดหลัก เช่น จีน, สหรัฐ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน และ ยุโรป
“เกม NINE EYES เป็นเกมในกลุ่ม RPG ที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 จากทั่วโลกมานานกว่า 10 ปี ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% ของตลาดเกมมือถือทั่วโลก และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน รายได้รวมน่าจะเติบโต New High เนื่องจากมีรายได้รูปแบบใหม่ที่เข้ามาจากเกม, ภาพยนตร์ และจากธุรกิจหลักของงานขายและการให้บริการ ของเกม, แอนิเมชั่น และ VFX ที่ยังโตต่อเนื่องและมีรายได้บางส่วนมารับรู้ในปีนี้ด้วย” นายธนัช กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 314.98 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 69.47 ล้านบาท ลดลง 43.1% จากปีก่อน โดยมีรายได้จากส่วนงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก 108.25 ล้านบาท ลดลง 14.8% จากปีก่อน รายได้จากส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น 110.68 ล้านบาท ลดลง 10.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทอยู่ระหว่างทดสอบมาตรฐานของลูกค้ากลุ่มใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการยกระดับการเติบโตและขยายฐาน Backlog ในอนาคต ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2567 ทำให้รายได้บางส่วนงานเลื่อนการรับรู้จากปี 2566 มาเป็นปี 2567
ส่วนงานเกมมีรายได้เพิ่มขึ้น 93.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของส่วนงาน Service ส่วนรายได้จากการจัดจำหน่ายเกมที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทในปี 2566 ใกล้เคียงกับปี 2565 บริษัทคาดการณ์รายได้จากการจัดจำหน่ายเกมที่เป็นลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นในปี 2567 จากแผนการเปิดเกมต่างๆ และการเปิดตัวเกมบนแพลตฟอร์มมือถือเป็นครั้งแรก จะทำให้เชื่อได้ว่าการปรับเป้าหมายรายได้ครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นของการก้าวสู่บทใหม่ของ YGG