PRI โกยกำไรปี 66 โต 53% แตะ 368 ล้านบาท เคาะปันผล 1.0313 บ. ขึ้น XD 13 มี.ค.นี้
PRI เปิดผลงานปี 66 ทำออลไทม์ไฮ โชว์รายได้ 1,916 ล้านบาท โต 109% ดันกำไรสุทธิ 368 ล้านบาท โต 53% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผล 1.0313 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้น XD 13 มี.ค.นี้ ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,916 ล้านบาท เติบโตขึ้น 109% เมื่อเทียบกับปี 2565 และเป็นรายได้ที่เกินกว่าเป้ารายได้ที่ตั้งเอาไว้ 1,300 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม อยู่ที่ 368 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปี 2565 โดยในไตรมาส 4/2566 (ต.ค.-ธ.ค.2566) ถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญ ที่ช่วยผลักดันให้บริษัทฯ มีการเติบโตทะลุเป้าหมาย โดยมีรายได้สูงถึง 570 ล้านบาท เติบโต 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
“การเติบโตดังกล่าวมาจากการวางรากฐานด้านการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ไปจนถึงการขยายธุรกิจใหม่ๆ หรือ New Business อย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการร่วมทุน และเข้าซื้อกิจการ ส่งผลให้มีบริษัทหลักในเครือเพิ่มเป็น 14 บริษัท จาก 8 บริษัท ครอบคลุมการให้บริการในทุกมิติและทุกช่วงเวลาในการใช้ชีวิตของลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจในภาพรวมของเรา มีความครบวงจร เป็น Super Living Service ที่จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ วันนี้รากฐานที่เราสร้างไว้อย่างแข็งแกร่ง รวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ได้ส่งผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ออกมาเป็นผลการดำเนินงานที่ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่เคยวางไว้” นายสุรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม ของบริษัทไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services), กลุ่มธุรกิจกลางน้ำ บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) และ กลุ่มธุรกิจปลายน้ำ บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) มีการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 2566 ซึ่งช่วยผลักดันการสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง (Recurring Income) อย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยสังเกตได้จากจำนวนโครงการที่เข้ารับบริหาร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 200 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีโครงการรับบริหารอยู่เพียง 150 โครงการ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้าถือหุ้นกิจการ บริษัท โปรเจคส์เอเชีย จำกัด หนึ่งในผู้นำที่ปรึกษาทางวิศวกรรม รวมถึงงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้บริษัทมีฐานการสร้าง Recurring Income ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ในกลุ่มธุรกิจกลางน้ำ เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การร่วมทุนกับ บริษัท ฟอร์วิซ จำกัด (Forviz) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้าน Digital Solution จัดตั้งบริษัท ลิฟเทค แล็บ จํากัด (LivTech Lab) เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบริการ และเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัย รองรับการพัฒนาการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรของ PRI ให้ไปสู่ธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรยุคใหม่ ผ่านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิตและการอยู่อาศัยของลูกค้า (Service Tech & Living Tech Solutions)
อีกทั้ง PRI ยังจับมือกับ บริษัท โธรน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Throne Property Co., Ltd.) และ บริษัท โนวนี แอสเสท จำกัด (Novany Asset) 2 บริษัทโบรกเกอร์ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ด้านการขายอสังหาริมทรัพย์ไทยให้แก่ชาวต่างชาติกว่า 10 ปี จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ “แพสชั่น แอสเสท 360” (Passion Asset 360) เพื่อดำเนินธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ ทั้งยังจัดตั้ง บริษัท จัส โค ออน จำกัด (JUST CO ON) เพื่อดำเนินธุรกิจด้านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์การให้บริการด้านนายหน้าอสังหาริมทรัพย์กับ Lifestyle ของกลุ่มลูกค้า Luxury
นายสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตผ่านการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ไปจนถึงการขยายธุรกิจใหม่ๆ ช่วยสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในระยะยาวให้กับธุรกิจ ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าขยายอาณาจักร Super Living Service ต่อเนื่อง ผ่านการพิจารณาร่วมทุน (Joint Venture) กับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้น ตลอดจนการพิจารณาเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจบริการใหม่ๆ ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยจะมีการแถลงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้
จากผลการดำเนินงานที่ทำได้เกินเป้าหมาย ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเห็นชอบให้จ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือนสุดท้ายของปี 2566 ในอัตรา 1.0313 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 330 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 14 มี.ค. 2567 และมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 23 พ.ค. 2567 พร้อมกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 13 มี.ค. 2567
อนึ่ง PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบ บริการจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร
2.กลุ่มกลางน้ำ บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) อาทิ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน บริการอพาร์ตเมนท์แบบพรีเมียม บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
3.กลุ่มปลายน้ำ บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง บริการออกแบบและตกแต่งภายใน