PHOL ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โต 15% ลุยตลาด “สุขภาพ-สิ่งแวดล้อม”
PHOL กางแผนปี 67 รายได้โต 15% ลุยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่-ขยายฐานลูกค้า รุกอุตสาหกรรมการแพทย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ (Medical-Healthcare) รองรับเทรนด์การเติบโตในอนาคต วางเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ 5% ด้าน “นายธันยา หวังดำรง” CEO คนใหม่ล่าสุด พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ “Make Every Day Safer and Better”
นายธันยา หวังดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมขับเคลื่อนบริษัทด้วยการเดินหน้าสร้างความเติบโตของกลุ่มธุรกิจหลักเดิมให้มีความเข้มแข็ง สร้างความปลอดภัยให้กับองค์กรและลูกค้า ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะขยายตลาดและธุรกิจใหม่รองรับเทรนด์ในอนาคต
โดยบริษัทมีจุดแข็งที่เด่นชัด คือ การเลือกลักษณะของสินค้าเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนในโรงงาน การเลือกสรรสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาเหมาะกับสมกับแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทมีฐานลูกค้ามีมากกว่า 4 พันราย และคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นทุกปี โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทคือ พวกสินค้าใช้แล้วทิ้งที่บริษัทเชี่ยวชาญเป็นทุนเดิม ขณะเดียวกันก็ยังมุ่งมั่นที่จะหาฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาสร้างการเติบโต
สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในปี 2567 มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นราว 15% จากปีก่อน ได้รับแรงขับเคลื่อนทั้งจากธุรกิจหลักด้านการจัดจำหน่ายสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม หรือ SAFETY ราว 65% สินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE จากการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ราว 25% และสินค้าอื่นๆอีกประมาณ 10% และคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 20-25% ในอนาคต
ส่วนแผนการดำเนินงานธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรม Medical & Healthcare ทางการแพทย์และพยาบาลที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยการเพิ่มสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันเลือดและสารคัดหลั่งต่างๆที่ใช้ในห้องผ่าตัด เริ่มเข้าไปใช้งานทั้งในโรงพบาลรัฐและเอกชน, สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่, สินค้าด้านการดูแลสุขภาพ เช่น อุปกรณ์ด้านการยศาสตร์ เก้าอี้เพื่อสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งบริษัทมีการพัฒนาสินค้าร่วมกับซัพพลายเออร์ รวมทั้งเพิ่มทีมขายที่เชี่ยวชาญในตลาดนี้เข้ามาเสริมทัพ โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถรองรับเทรนด์ผู้สูงอายุที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% จึงมีความต้องการที่จะเข้าไปเป็นผู้เล่นในตลาดเพื่อสร้างความเติบโตให้กับอุตสาหกรรมใหม่ๆในอนาคต
โดยบริษัทจะอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการคลังสินค้าในสินค้าประเภทใช้แล้วทิ้ง หรือ Disposable products ที่บริษัทดำเนินการอยู่แล้ว ต่อยอดด้วยการเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Disposable Medical & Healthcare เข้ามาเป็นกลุ่มสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นสินค้าที่การจัดการใกล้เคียงกับกลุ่มสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยที่มีอยู่เดิม เราจึงมีการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานขายเพิ่มเติม และเพิ่มพนักงานขายที่เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมทีม เพื่อโฟกัสตลาดนี้ ตั้งเป้าปีนี้มีสัดส่วนรายได้ราว 5%
“หลังจากที่ตั้งเป้าหมายว่าบริษัทจะเป็นผู้นำสินค้าด้านความปลอดภัยในภูมิภาค ปัจจุบันจะเริ่มขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆเพิ่มขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ Make Every Day Safer and Better มอบสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อชีวิตที่ปลอดภัยและดียิ่งขึ้นในทุกวัน” นายธันยา กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดประจำปี 2566 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566) บริษัทมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ที่ 58.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.89% ส่วนรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 971.43 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยราว 2.90% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,000.48 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.09 บาทแล้ว คงเหลือปันผลที่จะจ่ายในงวดครึ่งปีหลังอีกในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 เมษายน 2567 นี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิประชุมผู้ถือหุ้นและได้รับปันผล (Record date) วันที่ 1 มีนาคม 2567 และวันที่จ่ายปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2567