PROS ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โต 20% หลังแบ็กล็อกแน่น 1.9 พันล้าน ลุยรับงานรัฐ-เอกชน
PROS มองแนวโน้มปี 67 สดใส รับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 5 กลยุทธ์ เน้นรับงานระยะสั้นรักษา-ขยายฐานลูกค้า และคุมต้นทุน มุ่งขยายงานด้านพลังงาน-สุขภาพ-เทคโนโลยี ตั้งเป้าปีนี้ รายได้โต 20% ตุนแบ็กแน่น 1.9 พันล้านบาท จ่อรับรู้ปีนี้อีก 1.5 พันล้านบาท ลุยงานภาครัฐและเอกชนต่อเนื่อง
นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2567 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และพร้อมขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญได้แก่ 1.) เดินหน้าระบบวิศวกรรมระบบก่อสร้างอาคารเป็นธุรกิจหลัก (Core Business) โดยใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทเพื่อเพิ่มผลงานให้เติบโตตามเป้าหมาย 2.) ปรับบริหารการจัดการภายในองค์กรให้มีความกระชับมากขึ้น ลดขั้นตอนซ้ำซ้อนและไม่จำเป็น ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้
รวมถึง 3.) มุ่งเน้นรับงานระยะสั้น (6 ดือน-1ปี) ช่วยให้บริหารและควบคุมต้นทุนได้ และรับรู้ทั้งส่วนของรายได้และกำไรได้เร็วขึ้น โดยเน้นสโคปงานที่มีมูลค่าไม่เกิน 300 ล้านบาท 4.) เน้นรักษาฐานลูกค้า และขยายหาลูกค้าใหม่ในบางส่วน และ 5.) ควบคุมบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งบริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับสถานะทางการเงินที่สุด จึงต้องหางานที่ระสั้น ที่สามารถวางรายละเอียดและล็อคราคาก่อนเริ่มประมูลได้
“นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับเรื่องบุคลากร ที่เป็นหัวใจสำคัญต่ององค์กร ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญในการอบรมทั้งวิชาการและบริหาร และการมีนโยบายรักษา ซึ่งดำเนินการรักษาได้แล้วส่วนหนึ่ง และจะทำต่อไปในอนาคต โดยเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน สามารถควบคุมได้ในหลายๆมิติ” นายพงศ์เทพ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20% หรือประมาณกว่า 1 พันล้านบาท และมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,900 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะรับรู้ได้ภายในปีนี้ราว 1,400-1,500 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าจะเข้าประมูลงานใหม่ๆ ประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท และคาดหวังได้รับงานใหม่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
โดยบริษัทก็มุ่งสร้างการเติบโตไปยังธุรกิจอื่นๆ อาทิ ด้านพลังงานทดแทน เช่น งานระบบพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (Solar roof), ด้านสุขภาพ (Healthcare Business) เช่น โรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยบริษัทคาดการณ์ว่าเริ่มเปิดโรงพยาลเฉพาะทาง (ตา) ทำเลเกษตร-นวมินทร์ และด้านเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานสำหรับระบบไฟฟ้าและระบบปรับอากาศในอาคาร เป็นต้น อีกทั้ง ยังมองเห็นถึงอากาสการเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และงานก่อสร้าง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาศรัฐ การลงทุนของภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง เช่น โครงการก่อร้างที่พักข้าราชการทหาร, โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), โครงการแลนด์บริดจ์ และโครงการก่อสร้างสนามบินอันดามัน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญกับสถานะทางการเงินควบคู่ไปกับการดำเนินงานอย่างยั่งยืน มีการจัดสรรให้เพียงพอต่อการลงทุนในโครงการต่อๆไป โดยบริษัทได้รับการสนับสนุนเงินหมุนเวียนจากธนาคารในการยื่นขอ Project Finance ประกอบกับรายได้จากการขายหุ้น IPO ที่จะช่วยทดแทนส่วนที่ขาดทุนไปแล้วได้
“ดังนั้น ในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งเดินหน้าธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ควบคุมต้นทุน บริหารความเสี่ยง เน้นรับงานที่เชี่ยวชาญ สามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว ซี่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นงานภาคเอกชน ด้วยการประมูล ประกอบกับเดินหน้าหาพันธมิตรและงานใหม่ต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามั่นใจในจุดแข็งและความเชี่ยวชาญด้านระบบวิศวกรรมที่เป็นธุรกิจหลักของเรา” นายพงศ์เทพ กล่าวทิ้งท้าย