ADVANC ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โต 15% อัดงบลงทุน 2.6 หมื่นล้าน ขยายเครือข่าย5G-เน็ตบ้านไฮสปีด
ADVANC ตั้งเป้ารายได้ปี 67 โต 13-15% ส่วน EBITDA เพิ่มขึ้น 14-16% รับการควบรวม 3BB และการเติบโตของธุรกิจหลักทุกกลุ่ม พร้อมวางเป้าหมายผู้ใช้งาน 13 ล้านเลขหมาย ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 3 แสนครัวเรือน อัดงบลงทุน 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท ขยายความสามารถ 5G รองรับการใช้งาน และการขยายเครือข่ายเน็ตบ้านความเร็วสูงเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ
นายนภสินธุ์ สานติวัตร ผู้ชำนาญงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ว่า สำหรับปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคบางกลุ่ม เนื่องมาจากเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง เป็นแรงผลักดันให้ผลประกอบการบริษัทฯ ปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 29,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 26,011 ล้านบาท
โดยบริษัทสามารถทำรายได้รวมอยู่ที่ 188,873 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 185,485 ล้านบาท ได้รับประโยชน์จากรายได้จากการให้บริการหลัก เพิ่มขึ้น 4.2% จากการเติบโตจากธุรกิจหลักทุกกลุ่ม ประกอบกับรายได้จาก 3BB เข้ามาราว 2.2 พันล้านบาท ส่งผลให้กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 93,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากความพยายามในการทำ cost optimization ในหลายพื้นที่ และควบคุมต้นทุนต่างๆ
สำหรับรายได้หลักที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้รับแรงผลักดันมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่มีรายรวมอยู่ที่ 118,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มาจากการจ่ายเงินหลังใช้งาน (post paid) อยู่ที่ 57% และจ่ายก่อนใช้งาน แบบเติมเงิน (pre paid) อยู่ที่ 43% ที่เห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผู้ใช้บริการอยู่ที่ 44.6 ล้านเลขหมาย โดยแบ่งเป็น post paid จำนวน 32 ล้านเลขหมาย และ pre paid จำนวน 13 ล้านเลขหมาย เป็นผลจากกการที่โฟกัสการส่งมอบบริการที่เหนือกว่าและส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับผู้ใช้บริการทุกรายๆ และบริษัทมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) เพิ่มขึ้น 4.7% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 223 บาท/เลขหมาย/เดือน
ส่วนธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (บอร์แบรนด์) มีรายได้อยู่ที่ 13,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของ AIS FIBER เพิ่มขึ้น 17% ประกอบกับรับรายได้บางส่วนจาก 3BB เนื่องจากมียอดผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น และ ARPU เพิ่มขึ้น จากการที่ส่งมอบบริการตอบโจทย์มากขึ้น อาทิ home fiber land เชื่อมต่อทุกห้องในบ้านให้มีความเสถียรและการนำแพคเกจต่างๆมากมายให้ลูกค้าได้เลือกสรร
ขณะที่ธุรกิจบริการลูกค้าองคก์รและอื่น ๆ มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของทั้งส่วน AIS เดิม และรับรู้รายได้จาก 3BB เข้ามาบางส่วน ซึ่งบริษัทจะโฟกัสไปที่การวางเครือข่ายให้กับลูกค้าองค์กร รวมถึงคลาวด์และ Data Center ทั่วประเทศ ประกอบนำไปต่อยอดการให้บริการแบบแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิ พารากอนแพลต์ฟอร์ม เพื่อให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งเหมาะสมกับการใช้งาน รวมกับการสื่อสารหลายๆแพลตฟอร์มเชื่อมกัน และการใช้ 5G เข้ามาช่วยอุตสาหกรรมให้มีความปลอดภัยและตอบสนองได้รวดเร็วมากขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตร่วมกัน Ecosystem economy ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ (Digital Infrastructure), การร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม (Cross Industry collaboration) เสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งเซอร์วิสที่หลากหลายมากขึ้นและสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆให้กับลูกค้าผ่านการจับมือพันธมิตรที่แข็งแกร่ง 3) ทรัพยากรมนุษย์และความยั่งยืน (People and Sustainable) มุ่งเน้นเติบโตธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืน
“ บริษัทได้แบ่งลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่มหลักได้แก่ 1. กลุ่มบุคคล ( Individual) 2. กลุ่มบ้าน(House) จะเข้าถึงได้มากขึ้นในธุรกิจบอร์แบน ซึ่งตอนนี้ครอบคลุมได้ถึง 4.7 ล้านครัวเรือน และ 3 กลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจ จะถูกส่งมอบด้วยบริการทั้งด้านมือถือและธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโดยการให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร และดิจิทัลโซลูชั่นใหม่ๆมาใช้ในปี 2567-2568 ที่กำลังจะมาถึง และมีการสร้าง ecosystemที่แข็งแกร่ง สิทธิประโยชน์ร่วมกันระหว่างพาร์ทเนอร์” นายนภสินธุ์กล่าว
นายนภสินธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากการให้บริการหลักในปี 2567 จะเติบโตประมาณ 13-15% คาดการณ์การเติบโตเป็นผลจากการรับรู้รายได้จากการซื้อกิจการเข้ามาเต็มปี รวมกับกลุ่มธุรกิจหลัก โดยมุ่งเน้นยกระดับการให้ประสบการณ์กับผู้ใช้งาน สร้างคุณภาพที่เพิ่มขึ้น ผลักดันการใช้งาน 5G การทำ FMC หลากหลาย ทำให้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น และสร้างบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง และกลุ่มลูกค้า SME ตามการใช้งานอตุสาหกรรม การสร้างบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการให้บริการทางคลาวด์ Data Center และ 5G โซลูชั่น และยกระดับบริการต่างๆให้ดีขึ้น ทั้งแอพพลิเคชั่น my ais ชาแนล ทั้งหน้าร้านออนไลน์และออฟไลน์ ส่งผลให้มีการบริหารค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ส่วน EBITDA คาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 14-16% พร้อมตั้งงบประมาณการลงทุน (ไม่รวมคลื่นความถี่) ประมาณ 25,000-26,000 ล้านบาท สำหรับการขยายความสามารถ 5G รองรับการใช้งานเติบโตขึ้น และการขยายเครือข่ายเน็ตบ้าน สร้างการเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อเร่งการเติบโตของผู้ใช้บริการผ่านการใช้งบลงทุนร่วมเพื่อให้มีประโยชน์และประสิทธิผลทางการเงินมากขึ้น (CAPEX synergy) จากการผนึกกำลังของโครงข่ายระหว่างเอไอเอสและ 3BB
สำหรับธุรกิจมือถือปีนี้คาดการณ์รายได้เติบโต 1-3% เนื่องจากมีฐานผู้ใช้งานค่อนข้างมาก และฐานรายได้ในระดับสูงครอบคลุม 5G โดยตั้งเป้าครอบคลุมถึง 95% ของประชากรทั้งประเทศและตั้งเป้าหมายผู้ใช้งาน 13 ล้านเลขหมาย เติบโตเกือบ 30% ของพอร์ตผู้ใช้บริการโดยรวม ด้วยการผลักดันคอนเทนต์ และการสร้างความแตกต่างให้กับผู้ใช้งาน
ด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บอร์ดแบรนด์) คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 2 เท่า เป็นผลจากการรวมพอร์ตของ 3BB เข้ามาเต็มปีในปีนี้ และการความร่วมมือกับแบรนด์ใหม่ AIS 3BB fiber 3 ทำให้ลูกค้าทั้ง Ais fiber และ 3BB ได้รับคุณภาพสูงขึ้น โดยตั้งเป้ายอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านครัวเรือน หรือเพิ่มขึ้น 3 แสนครัวเรือน โดยที่โฟกัสลูกค้าที่มีคุณภาพสูง ทำให้ริษัทมารถปรับราคาให้สูงขึ้นได้
ส่วนธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้สู่ระดับเลข 2 หลัก หรือมากกว่า 10% ขึ้นไป โดยบริษัทให้ความสำคัญทั้งอีเบส และคลาวด์ ดาต้าเซเนตอร์และโซลูชั่นต่างๆ โดยมุ่งเน้นการทำบริหารค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง และเร่งทำความร่วมมือกับ 3BB จะช่วยผลักดันเติบโตจากในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงเร่งทำแลตฟอร์มต่างๆเช่น พารากอน และซีแพส ส่งมอบบริการที่สูงขึ้น โดยใช้ 5G และ Innovation เข้ามาสนับสนุน
“ การสร้างการเติบโตของรายได้ที่สูงและสร้างกำไรให้แก่บริษัทได้ ในกลุ่ม 3 ธุรกิจหลัก และการใช้งบลงทุนอย่างเหมาะสม เป็นผลจากการเร่งลงทุน และเร่งสร้างซินเนอร์ยี่กับ 3BB ทั้งในส่วนของต้นทุนและรายได้ต่างๆ รวมถึงบริษัทมุ่งเน้นการรักาษระดับเครดิตเรทติ้ง ประกอบกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความรวดเร็วให้ลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงการส่งมอบผลตอบแทนให้แก่ผู้ส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม” นายนภสินธุ์กล่าว