ดักเก็บ “แบงก์” ปันผลสูง! ชู SCB-KTB-TISCO ยีลด์กว่า 5%

กลุ่มแบงก์จ่ายเงินปันผลปี 66 ทะลัก! แนะดักเก็บช่วงราคาหุ้นผันผวนเพื่อรับ Dividend yield น่าสนใจ นำทีมโดย SCB ยีลด์งวดครึ่งปีหลังยังสูง 7% จากราคาปิดล่าสุด (2 ก.พ.) KTB รับ 5.35% KBANK 4.85% TISCO 5.75% ส่วน BBL และ KKP ระดับ 3.50% โบรกฯ มองการตั้งสำรองลดลงในปีนี้จะช่วยจำกัดปัจจัยดอกเบี้ยขาลงได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2566 ครบทุกแห่งแล้ว และส่วนใหญ่มีอัตราการจ่ายมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล หรือ Dividend yield ต่างอยู่ในระดับสูง นำโดย บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดสำหรับผลประกอบการปี 2566 จำนวน 10.34 บาทต่อหุ้น โดยได้มีการจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาลไปแล้ว 2.50 บาท และงวดครึ่งปีหลังอีกจำนวน 7.84 บาท กำหนดวันขึ้น XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิในเงินปันผล) วันที่ 17 เม.ย. 2567 และจ่ายปันผลวันที่ 3 พ.ค. 2567

ด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลัง (7.84 บาท) เมื่อเทียบกับราคาปิดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.พ. 2567 ซึ่งปิดที่ 111.50  บาท จะได้ดิวิเดนด์ยีลด์ประมาณ 7% (วันก่อนประกาศจ่ายเงินปันผลราคาหุ้นอยู่ที่ 104 บาท)

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB คณะกรรมการของธนาคารฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 เม.ย. 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2566 โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นสามัญในอัตรา 0.868 บาทต่อหุ้น (จ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิในอัตรา 1.0225 บาท/หุ้น) เป็นเงินรวม 12,131.22 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 2567 จ่ายปันผลวันที่ 3 พ.ค. 2567 โดยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของ KTB จะอยู่ที่ 5.35% จากราคาปิดล่าสุด คือ 16.20 บาท (ก่อนวันประกาศปันผลราคาหุ้นปิด 16.10 บาท)

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มีมติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2566 แก่ผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 6.50 บาท และเนื่องจากธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท มูลค่ารวม 1,184.66 ล้านบาท จึงจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายอีกในอัตราหุ้นละ 6.00 บาท มูลค่ารวม 15,400.62 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 เม.ย. 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 พ.ค. 2567

โดยการจ่ายปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังของ KBANK จะได้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลจากราคาปิดล่าสุด (123.50 บาทต่อหุ้น) ที่ประมาณ 4.85% (ก่อนวันประกาศปันผลราคาปิดที่ 123 บาท)

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2566 สำหรับหุ้นสามัญ ในอัตราหุ้นละ 7.00 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.33 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ 35.60% โดยเป็นเงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสะสม ซึ่งธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2566 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายอีกในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท ในวันที่ 10 พ.ค. 2567 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 เม.ย. 2567 พร้อมกันนี้ได้กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีวันที่ 11 เม.ย. 2567 เวลา 15.00 น.

ส่วนเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 3.52% จากราคาปิดล่าสุด 142 บาท (ราคาหุ้นก่อนประกาศจ่ายเงินปันผลปิดที่ 143.50 บาท)

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.050 บาทต่อหุ้น เมื่อเดือน ต.ค. 2566 และเตรียมขออนุมัติการจ่ายครั้งที่ 2 อีก 0.055 บาท จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 เม.ย. 2567 รวมเป็นอัตราเงินปันผลในปี 2566 ที่ 0.105 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 10,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากการจ่ายเงินปันผลในปี 2565 หรือเทียบเท่ากับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ประมาณ 5.7-5.8% ต่อปี ณ ระดับราคาหุ้น TTB ในปัจจุบันที่ประมาณ 1.80-1.85 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 8 พ.ค. 2567

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดอีก 5.75 บาท/หุ้น ขึ้น XD 24 เม.ย. 2567 วันที่จ่ายปันผล 15 พ.ค. 2567 อนึ่งก่อนหน้านี้ TISCO ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 2 บาท/หุ้น ส่งผลให้งวดปี 2566 ทาง TISCO จ่ายปันผลรวม 7.75 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 5.75 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 5.7% จากราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 100 บาท (ก่อนวันประกาศเงินปันผลงวดครึ่งหลังราคาปิดที่ 100.50 บาท)

บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP มีมติให้เสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท จะเป็นเงินปันผลที่จ่ายสำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 3.20 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 3.10 บาท ทั้งนี้กำหนดวันที่ประชุมผู้ถือหุ้น 05 เม.ย. 2567 ขึ้น XD วันที่ 18 เม.ย. 2567 วันที่จ่ายปันผล 03 พ.ค. 2567 ส่วนดิวิเดนด์ยีลด์งวดครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 4.04% จากราคาปิดล่าสุด  49.50 บาท (ก่อนวันประกาศเงินปันผล ราคาปิดที่ 49.75 บาท)

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP จะจ่ายเงินปันผลในงวดนี้อีก 1.75 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.36% จากราคาปิดล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2567 (ก่อนวันประกาศเงินปันผล ราคาปิดที่ 49.50 บาท) ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 เม.ย. 2567 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 29 เม.ย. 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 พ.ค. 2567

โดยธนาคารจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการทั้งปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 3.00 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 46.67% ของกำไรสุทธิ โดยธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท รวมเป็นเงิน 1,058.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2566

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ KCS กล่าวว่า ในช่วงที่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ผันผวนและปรับตัวลง เป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อรับเงินปันผล โดยมองว่าราคาหุ้นแบงก์บางตัวลงมาค่อนข้างต่ำแล้ว

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงน้ำหนักลงทุนในกลุ่มธนาคาร “เท่ากับตลาด” แต่มองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารปัจจุบันมีดาวน์ไซด์ทั้งในแง่ของการปรับลดประมาณการและการถูก Derating ไม่สูง ขณะที่ผลที่เกิดขึ้นจริงอาจน้อยกว่าตัวเลขที่เราคำนวณ หากการปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. สามารถช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น จนการเติบโตของสินเชื่อและการลดลงของการตั้งสำรองสามารถชดเชยผลจาก NIM ที่ต่ำลงได้

Back to top button