CRC แผนปี 67 อัดงบ 2.4 หมื่นล้าน ขยายสาขา “ไทย-เวียดนาม” ตอกย้ำเป้ารายได้โต 11%

CRC กางแผนปี 67 ลุยเปิดเซ็นทรัลเพิ่ม 2 แห่ง จ่อผุดไทวัสดุอีก 9 สาขาพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ GO! Mall ในเวียดนาม และเปิด Mini go! เพิ่มอีก 9 สาขา โดยวางงบลงทุน 2.2-2.4 หมื่นล้านบาท พร้อมย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 9-11%


นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRCเปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ว่าในปี 2566 บริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตได้มากกว่าในช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 248,688 ล้านบาท เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 12% เมื่อเทียบกับปี 2562

ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 32,626 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 45% เมื่อเทียบกับปี 2562 สำหรับกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 8,168 ล้านบาท เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 12% เมื่อเทียบกับปี 2562

โดยรายได้รวมที่เติบโตได้ค่อนข้างดีมาจากในประเทศไทย รวมถึงในส่วนของประเทศอิตาลียังคงเติบโตได้ดี สำหรับประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ติดลบในแง่ของยอดขาย โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ปรับตัวลง ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทฯ จะประกอบไปด้วย ยอดขาย รายได้ค่าเช่า และรายได้อื่นๆ  สำหรับยอดขายของบริษัทฯ ในปี 2566 เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากทุกกลุ่มธุรกิจ ในส่วนของรายได้ค่าเช่าปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเติบโต 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับรายได้อื่นๆ ยังคงเติบโตเช่นเดียวกันเติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายปเนต กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์ “5R Strategy” ซึ่งประกอบด้วย 1) Revolutionise Core Strengths คือการยกระดับธุรกิจหลักของ CRC ในทุกประเภท และทุกประเทศ โดยให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ High Growth พร้อมกับการมองหาโอกาสในเรื่องของ M&A เพื่อสร้าง Value ให้กับธุรกิจในระยะยาว 2) Reinforce Financial Resilience คือการบริหารจัดการ Cost, Capex และ Cash Flow ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการปรับโครงสร้างต้นทุนทางการเงินให้มีความเหมาะสมมากขึ้น 3) Reinvent Beyond Retail คือ การต่อยอดธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก รวมทั้งการขยาย Ecosystem จาก B2C ไปยัง B2B พร้อมทั้งยกระดับ Go Wholesale ให้เป็น Omni B2B 4) Reimagine Human Capital คือการพัฒนาศักยภาพพนักงาน และการนำเอา Intelligence ของ AI มารวมกับ Human Intelligence โดยบริษัทฯ ได้เริ่มนำเอา AI มาใช้แล้ว อาทิ ใน Tops หรือห้างสรรพสินค้า และ 5) Rally Green Impact คือการยกระดับ ในเรื่องของ Green Transition เช่น การลดการใช้พลังงาน เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม โดยขยายตามประเภทของธุรกิจดังนี้ 1) ห้างสรรพสินค้า ในปี 2567 บริษัทฯ จะเปิดเซ็นทรัลเพิ่ม 2 แห่ง ที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.นครปฐม 2) ไทวัสดุ บริษัทฯ มีแผนเปิดเพิ่มอีกประมาณ 9 สาขาในปีนี้ ครอบคลุมทั่วประเทศ และเตรียมขยายสาขาในอีก 5 ปีข้างหน้าประมาณ 8-10 สาขาต่อปี  3) Tops บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดประมาณ 10 สาขาในปีนี้ 4) โรบินสันไลฟ์สไตล์ จะเน้นไปที่การปรับพื้นที่ และเพิ่มพื้นที่เช่ามากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายสาขาอีก 2 สาขาในปีหน้า 5) ธุรกิจค้าส่ง Go Wholesale ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดเพิ่ม 7 สาขา โดยในเดือนมกราคมบริษัทฯ ได้เปิดไปแล้ว 1 สาขา

สำหรับธุรกิจ GO! Mall และ GO! Hypermarket ในเวียดนาม ที่ปี 2566 บริษัทฯ ไม่ได้ทำการเปิด โดยจะเลื่อนมาเปิดในปีนี้แทน ซึ่งจะทำการเปิดอีก 3 สาขาในช่วงปลายปี สำหรับ Mini go! ในปีนี้บริษัทฯ จะเร่งขยายสาขาเพิ่มอีก 9 สาขา โดยภาพรวมในปี 2567 ในการขยายสาขาจะเป็นการเปิด Format ขนาดกลาง และ Format ขนาดใหญ่ประมาณ 40 สาขา

“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 2567 ในประเทศเวียดนามไว้ที่ 9-10% ซึ่งภาพรวมในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 ถือว่าเติบโตได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามบริษัทคงตั้งเป้ารายได้ในปี 2567 เติบโต 9-11% และ EBITDA เติบโต 15-17% ส่วนงบลงทุนในปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 22,000-24,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายสาขาทั้งในไทยและประเทศเวียดนาม” นายปเนต กล่าวทิ้งท้าย

Company Snapshot

Back to top button