“กทม.” แจงรื้อ “แอชตัน อโศก” เป็นไปได้ยาก มั่นใจ 3 เดือนมีทางออก

“กทม.” แจงรื้อ-ทุบโครงการ “แอชตัน อโศก” เป็นไปได้ยาก ขณะนี้รอกรรมการคุมอาคารเคาะแนวทาง พร้อมมั่นใจมีทางออกทันภายในระยะเวลา 3 เดือน


เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานศาลปกครอง แถลงข่าวให้ กทม.บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในกรณีคอนโดแอชตัน อโศก ในอีก 3 เดือน ว่า ตั้งแต่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาออกมาในวันที่ 27 ก.ค.66 โดย กทม.ไม่แน่ใจว่าจะต้องส่งหนังสือแจ้งใครตาม มาตรา 41 แห่ง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่ประกอบด้วย เจ้าของห้องชุด นิติบุคคลอาคารชุด และบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เลยทำหนังสือหารือไปยังคณะกรรมการควบคุมอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมืองเมื่อ ส.ค.66 คณะกรรมการตอบกลับเมื่อต.ค.66 ว่า ประเด็นที่หารือเป็นปัญหาการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

โดยให้ กทม.สอบถามไปยังสำนักงานศาลปกครอง ซึ่งสำนักงานศาลปกครองมีการตอบกลับมาว่า กรณีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายหลังคำพิพากษา อยู่นอกเหนือจากคำบังคับของศาล เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ต้องพิจารณาตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

นายวิศณุ กล่าวว่า กทม. จึงส่งหนังสือหารือกับคณะกรรมการควบคุมอาคารอีกครั้ง เมื่อ 27 ธ.ค. 66 ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว มีการประชุมอยู่หลายครั้ง เพื่อให้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แก้ไขปัญหา

“ระยะเวลาการดำเนินการ 180 วัน ยังอยู่ในกระบวนการ ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมอาคาร คงไม่ช้า ถ้ามีการตอบกลับให้เป็นดุลยพินิจของสำนักการโยธาเป็นผู้ดำเนินการ จะมีการส่งหนังสือแจ้งไปยังอนันดา ซึ่งปฏิบัติได้ง่ายกว่าการส่งหนังสือแจ้งให้เจ้าของห้องชุดทุกห้องได้ทราบซึ่งจะมีการแจ้งไปให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล โดยให้ยื่นขอใบอนุญาตการก่อสร้างใหม่ ไม่ได้มีการสั่งให้รื้ออาคาร ทั้งนี้จะต้องให้ทันภายในระยะเวลา 3 เดือนอยู่แล้ว การปฏิบัติตามกฎหมายมีหลายแนวทาง ไม่ว่าจะหาทางเข้าออกอื่น ทางอนันดาก็ต้องหาทางมา การรื้อ ทุบ อาคาร ไม่ค่อยเป็นไปได้ แต่ถ้าเชิงกฎหมายจริงๆ ต้องให้ลดความสูงขนาดอาคาร หรือตามที่ รฟม.ดำเนินการให้ที่เวนคืนสมวัตถุประสงค์ก่อน ซึ่งกระทรวงคมนาคมเข้าใจปัญหาเรื่องนี้อยู่” นายวิศณุกล่าว

Back to top button