KWM กางแผนปี 67 รายได้โต 20% ผุดโรงสกัดสมุนไพร เจาะกลุ่ม “เครื่องสำอาง-ยา”
KWM กางแผนปี 67 รายได้โต 20% เดินเกมรุกผุดโรงสกัดสมุนไพร เจาะกลุ่ม “เครื่องสำอาง-อาหารเสริม -ยา” ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีสกัดสารระดับ “นาโน” รายแรกของโลก จ่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ 14 มี.ค.นี้ แย้มมีออเดอร์ลูกค้าสนใจกว่า 10 ราย พร้อมวางเป้าภายใน 4-5 ปี ธุรกิจโกยรายได้แตะ 300 ล้านบาท
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) ซึ่งดำเนินธุรกิจสกัดสาระสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่ KWHB ตั้งงบลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานและการติดตั้งเครื่องสกัดเพื่อสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร
ล่าสุดโรงงานสกัดดังกล่าวแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการการผลิตเชิงพาณิชย์เพื่อสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2567 นี้เป็นต้นไป โดยปัจจุบันโรงสกัดมีขนาดกำลังการผลิตจะอยู่ที่ 200 กิโลกรัมต่อวัน ภายใต้จุดเด่นการชูนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรที่สามารถสกัดสารระดับนาโน (nano) ซึ่งเป็นระดับที่เล็กมาก ส่งผลให้การดูดซึมสารสำคัญในระดับเซลล์ทำได้ดีขึ้นการออกฤทธิ์อาจมีความสามารถเทียบเท่ายาเคมีแผนปัจจุบัน และเครื่องจักรดังกล่าวนี้ใช้ระบบอุลตร้าโซนิคไดนามิคเป็นเครื่องแรกของโลก และทาง สวทช.ได้ส่งไปตรวจยืนยันกับสิทธิบัตรโลกแล้วว่าเครื่องอุลตร้าโซนิคไดนามิคนี้ มีสาระสำคัญถึง 6 ประการที่ไม่มีใครคิดและเคยผลิตมาก่อน จึงถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลกที่วิจัยและพัฒนาโดยคนไทยจนประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะเริ่มเดินเครื่องสกัดสารจากมะขามป้อมก่อนในเฟสแรก หลังจากนั้นมีแผนสกัดสารสำคัญจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ ดาวเรือง ขมิ้นชัน เป็นลำดับถัดไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศไทยและทั่วโลกที่หันมาให้ความสำคัญจากสารสกัดที่ได้จากพืชสมุนไพรสำหรับการรักษาโรคแบบถาวรแทนการใช้ยาที่ใช้สารเคมี
โดยล่าสุดมีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการมาขอซื้อสารสกัดจาก KWHB แล้วหลายราย อาทิ โรงพยาบาลหัวเฉียว,โรงพยาบาลอภัยภูเบศร, บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน), โรงพยาบาลนครพนม ,บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL เป็นต้น เพื่อนำสารสกัดที่ได้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มสินค้าประเภทยา เครื่องดื่ม อาหารเสริม เครื่องสำอาง และอื่นๆ
สำหรับโรงงานผลิตภัณฑ์สารสกัดที่ได้จากพืชดำเนินการภายใต้บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) ระหว่าง KWM ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และกลุ่มพันธมิตร จากประเทศจีน Liangtian Agriculture and Forestry Technology Co., Ltd.
โดยปัจจุบัน KWHB มีเครื่องจักรชุดเดียว (เครื่องสกัดอุลตร้าโซนิค, เครื่องสกัด(CO2), เครื่องระเหยความเร็วสูง และ เครื่อง Vacuum Spray Dryer) แต่ในอนาคตก็มีแผนจะสร้างเครื่องจักรชุดที่ 2 และ ชุดที่ 3 เพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดและขยายการรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเครื่องสกัดดังกล่าวสามารถสกัดได้หลายวิธี เช่น สกัดด้วยน้ำ สกัดด้วยแอลกอฮอล์ สกัดด้วยกรด และสกัดด้วยระบบ Super critical fluid extraction (CO2) ที่พัฒนาเครื่องจักรจาก KWM ส่วนเครื่องอุลตร้าโซนิคไดนามิก เป็นเครื่องที่มีสิทธิบัตรลิขสิทธิ์ถูกต้องของ KWHB ที่สำคัญเราเป็นรายเดียวในโลกที่สามารถสร้างเครื่องจักรนี้ได้
“สำหรับเครื่องอุลตร้าโซนิคไดนามิคนี้บริษัทเตรียมยื่นจดสิทธิบัตรเป็นเจ้าของรายแรกในประเทศภายในเดือนมีนาคมนี้และวางแผนนำไปจดในต่างประเทศไว้ด้วย และหลังจากเปิดเดินเครื่องอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มี.ค.นี้ จะเริ่มสกัดสินค้าตามออเดอร์ลูกค้าที่สั่งเข้ามา โดยขณะมีลูกค้าสนใจเข้ามาสั่งสินค้าประมาณ 10 ราย โดยมองว่าจะสามาถส่งมอบสารสกัดได้ภายไตรมาส 2/67 และวางเป้าปีแรกรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท และภายใน 4-5 ปี แตะ 300 ล้านบาท ”นายเอกพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
ส่วนแนวโน้มปี 2567 คาดรายได้เติบโตประมาณ 20% โดยได้ปัจจัยหนุนหลักจากความต้องการเครื่องมือทางการเกษตรอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ได้แก่ ใบผาล โครงผาล ใบเกลียวลำเลียง และใบดันดิน เป็นหลัก โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากลูกค้ารายใหญ่อย่าง สยามคูโบต้า โดยคาดว่ารายได้จะอยู่ราว 600 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้คาดรายได้ลูกค้าสยามคูโบต้าในต่างประเทศจะเติบโตเด่นกว่าปีก่อนราว 10-15% รวมทั้งธุรกิจจากโรงงานสกัดพืชที่คาดว่าจะเข้ามาหนุน เชื่อว่าผลงานปีนี้จะออกมาโดดเด่นแน่นอน ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 คาดเติบโตดี
ด้านแผนขยายตลาดการจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรไปยังต่างประเทศปัจจุบันขยายไปแล้วใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเวียดนาม, สปป. ลาว และพม่า ขณะที่ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดทวีปยุโรปเพิ่มเติม