โบรกเชียร์ซื้อ PTTEP เป้า 189 บาท อัพไซด์ 27% คาดยอดขายปีนี้โต 9%

โบรกเชียร์ซื้อ PTTEP ราคาเป้าหมาย 189 บาท ยังมีอัพไซด์ 27% คาดยอดขายปีนี้เติบโต 9% ลุ้นราคาน้ำมันดิบพุ่งดันกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 67 เพิ่มขึ้น 1.8%


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ถึงรายงานที่ระบุว่าบริษัทเชฟรอนอาจทิ้งธุรกิจก๊าซในโครงการยาดานาในเมียนมาร์ หลังจากที่แผนลดการลงทุนของเชฟรอนไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งคาดว่าจะทำให้สัญญาในแหล่งก๊าซยาดานาที่เชฟรอนถือส่วนแบ่งอยู่ 41% จะปล่อยให้หมดอายุในปี 2571 โดยไม่มีการต่อสัญญา

ขณะที่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ซึ่งถือหุ้นอยู่ในโครงการยาดานา 37% ส่วนบริษัทรัฐวิสาหกิจเมียนมาร์ MOGE ถือหุ้นอยู่ 22% โดย PTTEP จะต้องได้รับความยินยอมจากเชฟรอนในการเพิ่มการลงทุนเพื่อคงกำลังการผลิตไว้ที่ 300-400mmscfd ซึ่งคาดว่าเชฟรอนน่าจะไม่ยอมลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ที่กำลังจะขายทิ้ง จึงส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากำลังการผลิตก๊าซจะลดลงอย่างรวดเร็ว ในลักษณะเช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับแหล่งก๊าซเอราวัณเมื่อปี 2562 โดยฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ากำลังการผลิตในโครงการยาดานาจะลดลงเหลือ 400mmscfd ในปีนี้ จาก 516mmscfd ในปี 2566 และจะลดลงเหลือ 250-280mmscfd ในปี 2568-2569

อย่างไรก็ตาม CGSI เชื่อว่าอุปทานก๊าซในเมียนมาร์จะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากปริมาณการสำรองก๊าซที่ลดลง และปริมาณก๊าซในแหล่งที่เหลืออยู่อาจมีไม่พอสำหรับการต่อสัญญา ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นโอกาสสำหรับการสำรวจแหล่งก๊าซใหม่ๆ แต่ก็จะมาพร้อมกับการลงทุนเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ โครงการยาดานามีสัดส่วนต่อปริมาณการผลิตของ PTTEP ในปี 2567-2568 อยู่ 1.7-2.7% และ CGSI ไม่ได้รวมมูลค่าของการผลิตในโครงการยาดานาตั้งแต่ปี 2571 เป็นต้นไปไว้ในการประเมิณครั้งนี้ เนื่องจากคาดว่าไม่น่าจะมีการต่อสัญญาเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าการชะงักงันใดๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการยาดานาจะมีผลกระทบที่จำกัดต่อ PTTEP โดยทุกๆ 100mmscfd ที่ลดลงจะส่งผลให้ประมาณการ กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของ PTTEP ในปีนี้ลดลง 1%

นอกจากนั้นแล้ว CGSI ยังระบุถึงกำลังการผลิตก๊าซในแหล่งเอราวัณที่ PTTEP ระบุว่าจะแตะ 800mmscfd ได้ในวันที่ 20 มีนาคม 2567 ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเป็นวันที่ 1 เมษายน 2567  โดยฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากำลังการผลิตในเมียนมาร์น่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องจากกำลังการผลิตของแหล่งก๊าซธรรมชาติ Zawtika แม้การผลิตจากแหล่งยาดานาจะลดลงก็ตาม

ทั้งนี้ CGSI คงคะแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTTEP ที่ราคาเป้าหมาย 189 บาท โดยคาดว่าการเติบโตของปริมาณยอดขายในปีนี้จะยังคงเดิมที่ 9% และถ้าหากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นก็อาจมีการปรับราคาเป้าหมายได้ โดยทุกๆ 1 ดอลลาร์/บาร์เรล ของราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2567 ให้เพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนปัจจัยลบที่อาจส่งผลต่อราคาเป้าหมายได้คือต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าคาดการณ์

นอกจากนั้นแล้ว เมื่อเปรียบเทียบอัตราปันผลตอบแทนของ PTTEP กับคู่แข่งในภูมิภาค พบว่าคาดการณ์อัตราปันผลตอบแทนในปี 2567 ของ PTTEP จะอยู่ที่ 5.8% ส่วน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จะอยู่ที่ 3.9% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.5%

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น ปิดภาคเช้าของวันนี้ (13 มี.ค. 67) อยู่ที่ระดับ 149 บาท บวก 1.50  บาท หรือ 1.02% ต่ำสุดที่ระดับ 146.50 บาท สูงสุดที่ระดับ 149.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452.08 ล้านบาท เมื่อหากเทียบกับราคาเป้าหมาย 189 บาท ทำให้ยังมีอัพไซด์ 26.85%

Back to top button