RBF ปักธงรายได้ปีนี้โต 15% รุกขยายตลาดตปท.-ลุยผุดโรงงาน “อยุธยา” เสริมแกร่งธุรกิจ
RBF วางเป้ารายได้ปีนี้โต 15% รุกขยายตลาดต่างประเทศ พร้อมทุ่มงบ 150 ล้านบาท ผุดโรงงานใหม่ “อยุธยา” เสริมแกร่งธุรกิจเพื่อก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรม Food Ingredients อย่างยั่งยืน
นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า บริษัทร่วมนำเสนอข้อมูลผลประกอบการปี 2566 ที่ผ่านมา และทิศทางธุรกิจปี 2567 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ผ่านระบบออนไลน์ตลาดหลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ผลการดำเนินงานปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 31ธันวาคม 2566) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 4,421.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.61% โดยรายได้จากการขายและให้บริการที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิ 649.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.58%
สำหรับการดำเนินธุรกิจปี 2567 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าธุรกิจ Food Ingredients ยังมีทิศทางการเติบโตที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ฐานลูกค้าเดิมที่ยังเหนียวแน่น และการรุกขยายฐานลูกค้าใหม่ในทุกช่องทาง
โดยบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 10-15% และมีกำไรสุทธิเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้ จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าเดิมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าภาพรวมตลาดต่างประเทศจะเติบโตในระดับสองหลัก จากการรุกขยายตลาดในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ที่มีโอกาสเติบโตระดับสูง และสร้างศักยภาพการแข่งขันที่ยั่งยืน ขณะที่ตลาดภายในประเทศจะมีอัตราการเติบโต น้อยกว่าตลาดต่างประเทศ
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานเฟส 2 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้สร้างเสร็จแล้ว โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 นับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทในอนาคต เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ 6 กลุ่ม ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม Food Coating ลูกค้าจากประเทศในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งซื้อ (Order) เพิ่มมากขึ้น นับแต่ปลายปี 2566 รวมถึงกลุ่ม Flavor & Fragrance ที่เติบโตดีมากในตลาดประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ส่วนการลงทุนภายในประเทศ บริษัทฯ ได้จัดสรรเงิน 150 ล้านบาท นำมาลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโรงงานผลิตในกลุ่ม Reaction Favor เพื่อเพิ่มไลน์โปรดักส์ใหม่ให้กับกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารสัตว์ ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมของคนรุ่นใหม่ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้มีการขายสินค้าประเภทดังกล่าวให้กับผู้ผลิตอาหารสัตว์อยู่แล้ว ก่อนจะพัฒนาโปรดักส์ให้มีความเฉพาะมากขึ้น ตลอดจนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง
“แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 10-15 % และมุ่งมั่นรักษาอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า พร้อมรุกขยายการลงทุนในตลาดประเทศและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรม Food Ingredients อย่างยั่งยืนในอนาคต” พ.ท.พญ.จัณจิดา กล่าว