สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ วันที่ 13 มี.ค. 2567
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ วันที่ 13 มี.ค. 2567
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (13 มี.ค. 67) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มบริษัทผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,043.32 จุด เพิ่มขึ้น 37.83 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,165.31 จุด ลดลง 9.96 จุด หรือ -0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,177.77 จุด ลดลง 87.87 จุด หรือ -0.54%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (13 มี.ค. 67) แตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มสาธารณูปโภค หลังการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจที่สดใส
ดัชนี STOXX600 ปิดตลาดที่ระดับ 507.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.81 จุด หรือ +0.16% โดยแตะระดับสูงสุดตลอดกาลเป็นวันที่ 5 ในรอบ 6 วันทำการที่ผ่านมา, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,137.58 จุด เพิ่มขึ้น 50.10 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,961.38 จุด ลดลง 3.73 จุด หรือ -0.02% และดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,772.17 จุด เพิ่มขึ้น 24.36 จุด หรือ +0.31%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (13 มี.ค. 67) และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษกลับมามีการขยายตัวในช่วงเริ่มต้นปี 2567 ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,772.17 จุด เพิ่มขึ้น 24.36 จุด หรือ +0.31% โดยแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 3% ในวันพุธ (13 มี.ค. 67) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดจะได้รับผลกระทบจากการที่ยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 79.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2566
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (13 มี.ค. 67) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 14.70 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 2,180.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 76.20 เซนต์ หรือ 3.12% ปิดที่ 25.156 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 16.70 ดอลลาร์ หรือ 1.80% ปิดที่ 944.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 20.40 ดอลลาร์ หรือ 1.94% ปิดที่ 1071.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (13 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อดอลลาร์ พร้อมกับจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.16% แตะที่ระดับ 102.789