เปิด 3 สูตร “ค่าไฟ” รอบใหม่ จับตา 3 หุ้นรับอานิสงส์สูงสุด
ลุ้นค่าไฟรอบใหม่ (พ.ค.-ส.ค.67) กับ 3 สูตรที่เป็นไปได้ ฟากโบรกฯ แนะคัด 3 หุ้นเด่นแนะนำ “ซื้อ” คาดโรงไฟฟ้า SPP จะกลับมามีกำไรแข็งแกร่งในปี 67-68
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ในช่วงวันที่ 8-22 มี.ค. เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับอัตราค่าไฟฟ้าที่เสนอ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง 4.18-5.44 บาท/kWh (อัตราค่าไฟฟ้าพื้นฐาน 3.78 บาท/kWh และค่า Ft ที่เสนอมา 0.40-1.65 บาท/kWh)
สำหรับค่า Ft ประกอบด้วยค่าเชื้อเพลิงฐาน (FAC) และภาระต้นทุนค่าไฟค้างรับสะสม (AF) ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชำระคืนให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดย FAC คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.19 บาท/kWh ลดลงจาก 0.40 บาท/kWh สำหรับประมาณการรอบเดือน ม.ค.-เม.ย. จากราคาก๊าซที่ปรับตัวลง (ประมาณการราคา pool gas ที่ 300 บาท/ล้านบีทียู เทียบกับ 333 บาท/ล้านบีทียู ในรอบเดือน ม.ค.-เม.ย.)
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่าง 3 กรณี คือระยะเวลาในการชำระภาระคงค้างคืนให้กับ กฟผ. ซึ่งมียอดคงค้างอยู่ที่ 9.97 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 66
กรณีที่ 1: ชำระคืนใน 1 งวด (4 เดือน) ทำให้ค่า Ft รวมอยู่ที่ 1.65 บาท/kWh และอัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 5.44 บาท/kWh
กรณีที่ 2: ชำระคืนใน 4 งวด (16 เดือน) ส่งผลให้มีค่า Ft รวมอยู่ที่ 0.56 บาท/kWh และอัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4.34 บาท/kWh
กรณีที่ 3: ชำระคืนใน 7 งวด (28 เดือน) ส่งผลให้ค่า Ft รวมอยู่ที่ 0.40 บาท/kWh และคงอัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบันไว้ที่ 4.18 บาท/kWh
โดยการนำกรณีใดๆ ตามข้างต้นมาใช้จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เนื่องจากการเพิ่มค่า Ft จะทำให้ราคาขายไฟต่อลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น บริษัทต่างๆ ที่มีรายได้จาก IU เป็นจำนวณมาก เช่น GPSC และ BGRIM ซึ่งรายได้ 25-30% มาจากกลุ่มนี้ จะได้รับประโยชน์สูงสุด ขณะที่ทางเลือกที่ 3 น่าจะเป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากสอดคล้องกับข้อเสนอของ กฟผ.และเป็นการไม่ปรับขึ้นค่าไฟ
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า คาดการณ์ว่าโรงไฟฟ้า SPP จะกลับมามีกำไรที่แข็งแกร่งในปี 67-68 โดยมีอัตรากำไรดีขึ้น จากต้นทุนก๊าซที่ลดลงเร็วกว่าค่า Ft
นอกจากนี้ การเปิดตัวแผนพัฒนากำลังไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งคาดจะมีการจัดสรรพลังงานหมุนเวียนอย่างมีนัยสำคัญ ถือเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าของไทย ตัวเลือกสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าแบบดั้งเดิมยังคงเป็น GULF และ GPSC ขณะที่ CKP มีความโดดเด่นมากที่สุดในบรรดาบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน