KBANK วางกรอบบาทสัปดาห์หน้า 35.30-36.30 บาท จับตาโฟลว์ต่างชาติ-ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ
KBANK ประเมินกรอบค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 35.30-36.30 บาท/ดอลลาร์ แนะติดตามทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในต่างประเทศ
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (18-22 มี.ค.) ไว้ที่ระดับ 35.30-36.30 บาท/ดอลลาร์
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ (Flow) ผลการประชุมนโยบายการเงิน Dot Plot และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ทบทวนใหม่ของเฟด (19-20 มี.ค.)
รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (18-19 มี.ค.) และธนาคารกลางอังกฤษ (21 มี.ค.) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และข้อมูลเบื้องต้นของ PMI
สำหรับเดือนมี.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนมี.ค. และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR และตัวเลขเศรษฐกิจของจีน อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และอัตราการว่างงานด้วยเช่นกัน
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยอ่อนค่าลงสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (เพิ่มขึ้น 3.2% จากปีก่อน ในเดือนก.พ. สูงกว่าตลาดคาดที่ 3.1% เทียบกับปีก่อน) ดัชนีราคาผู้ผลิต (เพิ่มขึ้น 1.6% จากปีก่อน ในเดือนก.พ. สูงกว่าตลาดคาดที่ 1.1% จากปีก่อน) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (ลดลง 1,000 ราย มาที่ 209,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 218,000 ราย)
ทั้งนี้ตัวเลขเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ลดทอนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุม FOMC ใกล้ๆ นี้ลง
ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.81 บาท/ดอลลาร์ (หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 35.86 บาท/ดอลลาร์) เทียบกับระดับ 35.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 มี.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 11-15 มี.ค. นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 4.9 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 11,670 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 11,170 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 500 ล้านบาท)