“ปูติน” คว้าชัยเลือกตั้ง “ปธน.รัสเซีย” 6 สมัย เร่งเสริมทหารไปรบยูเครน
“วลาดิมีร์ ปูติน” คว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย 6 สมัย ด้วยคะแนนมากว่า 87% สร้างประวัติศาสตร์ผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในรอบ 200 ปี นับตั้งแต่ “สหภาพโซเวียต” ล่มสลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (18 มี.ค.67) ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างถล่มทลาย โดยผลเอ็กซิทโพลชี้ว่าได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียงสูงถึง 87.8% ถือว่าทำสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่อดีต สหภาพโซเวียต ล่มสลาย
โดยนายปูติน กล่าวกับผู้สนับสนุนว่า ชัยชนะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัสเซียมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะยืนหยัดต่อต้านชาติตะวันตก และส่งกองทัพเข้าไปในยูเครน ขณะที่ ต้องการจัดลำดับความสำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียในพื้นที่ยูเครน พร้อมเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพรัสเซีย
“ทั้งนี้ เรามีภารกิจมากมายรออยู่ข้างหน้า แต่เมื่อเรารวมกำลังเข้าด้วยกัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการข่มขู่ กดขี่ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จ พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในตอนนี้ และพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในอนาคต” นายปูติน กล่าว
ส่วนบรรดาผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกันเพื่อรับฟังการประกาศชัยชนะได้ส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อ “ปูติน” เมื่อเขาปรากฎตัวบนเวที และตะโกนว่า “รัสเซีย” เมื่อกล่าวถ้อยแถลงประกาศชัยชนะ
นายปูติน ถือเป็น ทหาอดีตยศพันโทใน คณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ (เคจีบี) สมัยสหภาพโซเวียต และก้าวสู่เส้นทางการเมืองครั้งแรกในปี 2542 ปัจจุบันอายุ 71 ปี ซึ่งจะดำรงตำแหน่งต่อไปจนอายุ 77 ปี ชัยชนะดังกล่าวทิ้งห่าง นายโจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำของสหภาพโซเวียต กลายเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในรอบกว่า 200 ปี
ขณะที่ เสียงสนับสนุน 87.8% ที่เลือกปูตินซึ่งมีการรายงานจากการ มูลนิธิความเห็นสาธารณะ (FOM) ถือว่าสูงที่สุดในการเลือกตั้งเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ขณะที่ ศูนย์วิจัยความคิดเห็นสาธารณะ (VCIOM) ระบุว่า ปูตินคว้าชัยด้วยคะแนน 87% ซึ่งไม่ต่างกันมากนัก โดยคณะกรรมการเลือกตั้งรัสเซียระบุว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ 74.22% ซึ่งมากกว่าในปี 2018 ที่จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์อยู่ที่ 67.5%
ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการชี้ให้เห็นว่าตัวเลขค่อนข้างถูกต้อง แต่สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี และชาติตะวันตกอื่นๆ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เสรีและไม่ยุติธรรม เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองถูกจำคุก หรือถูกตัดสิทธิออก โดยผู้ที่มีคะแนนตามหลังปูตินคือ นายนิโคไล คาริโตนอฟ จากพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งได้คะแนนไปไม่ถึง 4% ตามด้วย นายวลาดิสลาฟ ดาวานคอฟ และ เลโอนิด สลุตสกี ซึ่งเป็นพวกชาตินิยม
ด้านการเลือกตั้งวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 67 มีกลุ่มผู้สนับสนุน นายอเล็กซี นาวัลนี หลายพันคนออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านปูตินทั้งในและนอกประเทศ อย่างไรก็ดี ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เขามองว่าการเลือกตั้งของรัสเซียเป็นประชาธิปไตย และการประท้วงต่อต้านเขาที่ได้แรงบันดาลใจจากนายนาวัลนีไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการเลือกตั้ง”
นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นต่อการเสียชีวิตของ อเล็กเซ นาวาลนี แกนนำฝ่ายค้านรัสเซียเป็นครั้งแรกว่า เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้า และยืนยันว่าเขาพร้อมที่จะทำการแลกเปลี่ยนนักโทษที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองฝ่ายค้าน