ท่องเที่ยวคึก! “รัสเซีย-ยูเครน” ลี้ภัยสงครามแห่ซื้อ “บัตรไทยแลนด์พริวิเลจคาร์ด” พุ่ง 108%

“รัสเซีย-ยูเครน” แห่ซื้อบัตรไทยแลนด์พริวิเลจคาร์ด พุ่ง 108% เหตุหนีภาวะสงครามระหว่างประเทศ ดันท่องเที่ยวไทยคึกคัก พร้อมตั้งเป้าปี 67 ลุยเพิ่มสมาชิกมากกว่า 8,000 ราย


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (21 มี.ค.67) นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด เปิดเผยว่า จากผลจากภาวะสงครามระหว่างประเทศ ทำให้ยอดการขาย “บัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มชาวรัสเซียขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ในปี 2567 รวมถึงยูเครน ไต้หวัน ฮ่องกง และเมียนมามีการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ ขณะที่ ประเทศจีนซึ่งเป็นลูกค้าหลักนั้น ปัจจุบันมีสัดส่วน 45% จากจำนวนผู้ถือบัตรทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 38%

ทั้งนี้ ข้อมูลตั้งแต่ปี 2546 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 พบว่า มีสมาชิกชาวรัสเซียจำนวน 1,132 ราย, ยูเครน 86 ราย, เมียนมา 535 ราย, ฮ่องกง 882 ราย และไต้หวัน 1,236 ราย

สำหรับผลประกอบการปีงบประมาณปี 2566 มียอดสมาชิกสะสม 31,231 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 11,846 ราย คิดเป็น 108% และมีทิศทางการเติบโตปี 67 คาดการณ์ว่าจะสามารถขายบัตรฯได้ 8,000 ใบ โดยมีเป้าหมายรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท แต่จากจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่กล่าวมาช่วยให้เกิดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 50,000 ล้านบาท หรือมีสมาชิกสะสมรวม 39,000 ราย

นอกจากนี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัทสามารถขายบัตรได้ประมาณ 6,721 ใบ สร้างรายได้ 5,428 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ถือบัตรจะเห็นได้ว่าจำนวนลดลง แต่การเติบโตของรายได้มากขึ้นเป็นผลมาจากราคาบัตรแพงขึ้น ซึ่งเริ่มต้น 9 แสนบาท สูงสุด 5 ล้านบาท คาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10%

อย่างไรก็ตามในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถส่งเงินกำไรคืนให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะบริษัทแม่ รวม 1,607 ล้านบาท เพื่อส่งคืนให้รัฐบาล แบ่งเป็นปี 64 จำนวน 138 ล้านบาท ปี 65 จำนวน 627 ล้านบาท และปี 66 จำนวน 841 ล้านบาท

Back to top button