JKN งบปี 66 ขาดทุน 2 พันล้าน เจอพิษตั้งด้อยค่า-รายได้คอนเทนต์ลด
JKN แจ้งงบปี 66 พลิกขาดทุน 2.13 พันล้านบาท หลังบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์-เครื่องหมายการค้าและค่าความนิยม รวมถึงรายได้ธุรกิจคอนเทต์ปรับตัวลดลงเทียบกับปีก่อน
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN รายงานผลประกอบการงวดปี 66 พลิกขาดทุน 2.13 พันล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 608 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์อยู่ที่ระดับ 2,495.42 ล้านบาท ลดลง 174.15 ล้านบาทหรือลดลง 6.52% จากปีก่อน หลังกลุ่มธุรกิจสื่อโทรทัศน์แบบดั้งเดิมที่เป็นลูกค้าหลักมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บหนี้ได้น้อยลง
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ภาพรวมแล้วพบว่ารายได้จากการโฆษณาได้หายจากกลุ่มธุรกิจสื่อดั้งเดิมไปสู่สื่อช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ลูกค้ากลุ่มสื่อดั้งเดิมไม่มีกำลังในการซื้อคอนเทนต์เพื่อนำไปฉายในช่องทางของตน
อีกทั้งยังส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มสื่อดั้งเดิมเริ่มมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งส่งผลต่อการค้างชำระหนี้คืนแก่กลุ่มบริษัทฯ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคในการสนใจสื่อหลักน้อยลง และนวัตกรรมเชิงขับเคลื่อนด้านพลวัต รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในการสร้างคอนเทนต์ ทำให้บริษัทต้อง ติดตามและ มีการสำรองสินค้าเพื่อจำหน่ายมากขึ้น
โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการวางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจ โดยตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงข้างต้น คาดการณ์ว่าจะมีกระแสเงินสดจากการวางแผนธุรกิจและการตลาดให้เติบโตจากธุรกิจคอมเมิร์ซ เน้นการขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยใช้สื่อของเครื่องหมายการค้า Miss Universe ในการผลักดันและต่อยอดการขายเพิ่มผลิตภัณฑ์
สำหรับแบรนด์ Miss Universe ปรับแผนการนำลิขสิทธิ์รายการไปหาประโยชน์กับสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Miss Universe Organization ให้มากขึ้น ลดต้นทุนของธุรกิจโดยใช้ Outsource ทั้งนี้การจัดหาเงินและสภาพคล่องเพื่อใช้ในการดำเนินงานต่อเนื่องขึ้นอยู่กับความสำเร็จของแผน และกลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างช่วงปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจและแผนกระแสเงินสด
ทั้งนี้ฝ่ายบริหารของบริษัทเห็นว่าสถานะการเงินและความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องในอนาคตมีหลายองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ทั้งการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ รวมถึงคำสั่งของศาล
โดยในปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 2.495.42 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 174.15 ล้านบาท หรือ 6.52% โดยรายได้ค่าสิทธิ์จากธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการ ลดลง 13.82% รายได้จากการให้บริการจากธุรกิจบริการโฆษณา เพิ่มขึ้น 47.62% รายได้จากการขายจากธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลดลง 41.06% รายได้จากการบริหารจัดการลิขสิทธิ์ขององค์กรนางงามจักรวาลเพิ่มขึ้น 3,206.06% จากการที่เป็นปีแรกที่จัดประกวดนางงามจักรวาลภายใต้การดำเนินงานของบริษัท และ รายได้อื่นลดลง 92.45% เนื่องจากรับรู้กำไรจากการซื้อกิจการในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม 441.10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2,157.48 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการพิจารณาการด้อยค่าสินทรัพย์ โดยบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์ไม่มีตัวตน-ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ 841.97 ล้านบาท ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในเครื่องหมายการค้าและค่าความนิยม 271.52 ล้านบาท และการตั้งสำรองด้อยค่าในสินทรัพย์อื่น 31.48 ล้านบาท
รวมทั้งสามรายการเป็นยอดรวม 1,144.97 ล้านบาท และการรับรู้ผลขาดทุนทางด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยตั้งเป็นค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 494.86 ล้านบาท
นอกจากนั้นบริษัทมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในเงินลงทุนในบริษัทย่อย 619.45 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการกระทบในงบการเงินเฉพาะแต่ละกิจการ
นอกจากนั้น ยังเป็นผลจากรายได้ในธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในไตรมาส 4/66 ลดลงอย่างมาก แม้จะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจการจัดประกวดนางงามจักรวาลที่จัดประกวดในเดือน พ.ย.66 แต่ไม่สามารถชดเชยได้ เนื่องด้วยต้นทุนบริการของธุรกิจการขายและให้บริการได้รวมต้นทุนของการจัดการสิทธิ์ของมิสยูนิเวิร์สจากการจัดการประกวด 2 ครั้งในปี 66 ไว้ (จัดประกวดในเดือนม.ค.66 และ พ.ย.66)
โดยจากเหตุผลที่กล่าวจึงส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในปี 66 ลดลงมาอยู่ในสถานะขาดทุนสุทธิ -86.46% จากปี 65 มีอัตรากำไรสุทธิ 21.85% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเมื่อเทียบกับรายได้รวมปี 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่อัตรา 99.39% จากอัตรา 18.16% ในปี 65