โบรกชู SPALI ท็อปพิก! รับรัฐกระตุ้น “อสังหา” ดันดีมานด์พุ่ง เคาะเป้า 25 บาท
โบรกมองกลุ่ม “อสังหาริมทรัพย์” รับรัฐบาลกระตุ้น 4 นโยบายอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐบาล ชู SPALI ท็อปพิก! ดันดีมานด์พุ่ง หนุนสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น โดยยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึง 7 องค์กรอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีการเสนอมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยมี 4 นโยบายที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐบาล ได้แก่
1.การผ่อนคลายข้อบังคับความเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ (ownership relaxation) โดยขยายระยะเวลาการเช่าจาก 30 ปีเป็นระยะเวลาเช่า 99 ปี หรือให้วีซ่า 10 ปีแก่ชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต และให้วีซ่า 5 ปีแก่ชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 5 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป
2.ผ่อนคลายการจำกัดวงเงินราคาอสังหาริมทรัพย์จาก 3 ล้านบาทเป็น 7 ล้านบาท เพื่อลดค่าธรรมเนียมการโอน (จาก 2% เป็น 1%) และค่าธรรมเนียมการจำนอง (จาก 1% เป็น 0.01%) โดยมีกำหนดหมดอายุ 31 ธันวาคม 2567
3.เพิ่มสิทธิพิเศษทางภาษีแก่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 1.2 ถึง 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต และ 4. การลดหย่อนภาษีที่ดินและทรัพย์สิน 50% เป็นเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่ามาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 2 จะช่วยส่งเสริมอุปสงค์ด้านอสังหาริมทรัพย์ให้ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการสนับสนุนให้เกิดผู้ซื้อชาวต่างชาติและเพิ่มความสามารถในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสูงสุด 7 ล้านบาท โดยจะเป็นประโยชน์แก่กลุ่มผู้ซื้อระดับกลางถึงระดับบน
ส่วนธนาคารต่างๆ ยินดีที่จะมอบสินเชื่อแก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เนื่องจากผู้ซื้อกลุ่มดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือมากกว่าผู้พัฒนารายย่อย โดยหากแบ่งตามระดับ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI คือสองบริษัทที่มีสัดส่วนราคาขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในช่วง 3 – 10 ล้านบาท สูงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม
สำหรับความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยของกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้นเกินระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เติบโตขึ้น 25% ในปี 2566 และคิดเป็น 13% ของการซื้อคอนโดทั้งหมด โดยได้แรงหนุนจากชาวจีน, ไต้หวัน, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ
อย่างไรก็ดี บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ส่วนสนับสนุนอุปสงค์จากต่างประเทศอย่างยั่งยืน โดยคิดเป็น 18% ,AP คิดเป็น 17% และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI คิดเป็น 16% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2566
ขณะเดียวกันเชื่อว่าความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปัจจัยเชิงบวกในวงกว้างสำหรับหุ้นอสังหาริมทรัพย์ โดยแม้จะขาดรายละเอียดด้านระยะเวลาในการดำเนินการ แต่คาดการณ์ว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ภายในกลางปีนี้
โดยในปี 2562 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย (RPI) มีการตอบสนองเชิงบวกล่วงหน้า 2-6 เดือนก่อนการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (การปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจำนอง)ง
ดังนั้น ทางฝ่ายวิจัยยังคงชอบ SPALI เป็นหุ้นท็อปพิกของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท ส่วน AP แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท
ขณะที่ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH โดยให้ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท และบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ให้ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท ยังคงแนะนำขาย