เปิดโผ 9 หุ้นน่าลงทุนเดือนเม.ย. มั่นใจกำไรแกร่ง-รับงบประมาณปี 67

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงกลยุทธ์การลงทุนเดือน เม.ย. 2567 ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ตามเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2/2567 และจะเห็นความชัดเจนในครึ่งหลังปี 2567 รับแรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 หลังผ่านการพิจารณาจาก ส.ว. และคาดว่าจะมีการเบิกจ่ายในเดือน เม.ย.นี้ และรองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ที่คาดว่าจะเร่งเบิกจ่ายในช่วงเดือน ต.ค. 2567 ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักทั้งการบริโภคเอกชน การท่องเที่ยว และการส่งออกฟื้นตัว

ทั้งนี้ ประเมินดัชนี SET index สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1,470 จุด บน EPS ที่ 91 บาท/หุ้น ค่า PE 16 เท่า ซึ่งปัจจุบันดัชนี SET index เทรดที่ PE 15 เท่า ยังคงต่ำกว่าช่วงระดับโควิดที่ 15.7 เท่า โดยยังเน้นกลยุทธ์ Selective ในหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตแข็งแรง และ Valuation ไม่แพงโดยให้ Top Pick ได้แก่  AOT, BCH, CPALL,CPN, GPSC, NSL,SHR, SJWD และ TIDLOR

อย่างไรก็ตามจากหุ้นที่นำเสนอข้างต้นถือเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแกร่ง และแนวโน้มยังเติบโตต่อเนื่องอย่างเช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT คาดว่ากำไรน่าจะมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/2567 รับปัจจัยหนุนจากปริมาณผู้โดยสารต่างประเทศที่ฟื้นตัวดีแตะระดับ 82% ของระดับก่อนโควิดในเดือนม.ค. และ 85% ในช่วงวันที่ 1-10 ก.พ. โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ล้านคนจะทำให้กำไรปกติปี 2567 เพิ่มได้ 5% โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 75 บาท

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH คาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 33% เป็น 1.90 พันล้านบาทในปี 2567 จากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงของ KIH Vientiane รวมทั้งสำรองที่ลดลง หรือการกลับรายการรายได้ที่เกี่ยวข้องกับโควิด ประกอบกับผลขาดทุนที่ลดลงจากโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง และการเติบโตจากตัวเลขสมาชิกประกันสังคมลงทะเบียนที่สูงขึ้น โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN โดยมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงาน CPN ในช่วงปี 2567-2569 จากธุรกิจศูนย์การค้าที่ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่แรงหนุนจะมาจากธุรกิจอสังหาฯที่จะเติบโตมากขึ้น บริษัทให้ guidance การเติบโตของธุรกิจ Residential ปี 2567 เติบโต 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย CPN มีแผนเปิด 10 โครงการใหม่ในปี 2567

นอกจากนี้ CPN มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง ที่นครสวรรค์และนครปฐมในไตรมาส 1/2567 และในปี 2568 มีแผนเปิดเพิ่มที่กระบี่และ Dusit Central Park คาดหนุนรายได้ค่าเช่าเติบโตต่อเนื่อง คาดกำไรปกติปี 2567-2569 เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ราคาหุ้นเทรด PE ต่ำเพียง 17.80 เท่าเทียบกับอดีตที่กว่า 20 เท่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท

บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL โดยประเมินว่าภาพระยะสั้นในไตรมาส 1/2567 ยังโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้มีโอกาสแตะระดับนิวไฮสวนฤดูกาล ส่วนภาพทั้งปี 2567 ยังคงสดใส โดยบริษัทตั้งเป้าหมายของรายได้รวมเพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการเติบโตตาม 7-Eleven, Food service, NSL brands และ BAW

ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าพลิกฟื้นผลการดำเนินงานบริษัทร่วม Pen 1, BAW และ BEV ให้มีกำไรในปีนี้ โดยฝ่ายวิเคราะห์เริ่มเห็น Upside ต่อประมาณการณ์ 4-5% บนสมมติฐานรายได้ที่ยังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท และหากสามารถบรรลุเป้าที่จะไม่รับรู้ขาดทุนจาก 3 บริษัทลูก รวมถึงการะชำระคืนหนี้ธนาคาร แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR คาดการณ์รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดในโรงแรม (Rev Par) ของโรงแรมในไทยและ Maldives จะเติบโต 10-12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วยอัตราการเข้าพัก (OCC rate) 88%- 93% ในเดือน ม.ค.-ก.พ. 67

ขณะที่บริษัทคาดการณ์รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดในโรงแรมจะโต 20-25% ในปี 2567 จากโรงแรมในมัลดีฟท์ที่ฟื้นตัวหลังนักท่องเที่ยวจีนกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยยังคงคาดการณ์กำไรปี 2567 จะก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 307 ล้านบาท จากปี 2566 มีกำไร 86 ล้านบาท ราคาหุ้นปัจจุบันยังถูก เทรด PBV เพียง 0.6 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยว  แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 4 บาท

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR คาดการณ์กำไรไตรมาส 1/2567 จะฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า หลังมีการตั้งสำรองที่สูงขึ้นในไตรมาส 4/2566 ซึ่งหากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน เม.ย. มีการปรับลดดอกเบี้ยลงจะ Surprise ตลาดและเป็นบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์ ขณะที่เป้าหมายธุรกิจปี 2567 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 10-20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มี NPL ที่ 1.4-1.8% โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2567 เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27 บาท