5 แบงก์ยักษ์ใหญ่จีน! ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยหด เสี่ยงกระทบภาคอสังหาฯ
5 แบงก์ใหญ่จีน! ส่วนต่างอัตรารายได้ดอกเบี้ยลดลง (NIM) เตือนอาจเสี่ยงยังภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจีนเกิดภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อาจทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้และการล้มละลายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (30 มี.ค. 67) ธนาคารรายใหญ่ที่สุด 5 แห่งในประเทศจีนเปิดเผยส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่หดตัวลง ขณะเดียวกันก็เตือนถึงความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงนั้น ธนาคารของจีนได้ถูกกดดันให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเพื่อสนับสนุนภาคส่วนต่าง ๆ ขณะที่ความต้องการกู้ยืมลดลง
“โดยความสามารถในการทำกำไรจะยังคงถูกกดดันด้วยต้นทุนด้านสินเชื่อที่ระดับสูง และ NIM ที่หดแคบลง เพราะภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำจะจำกัดผลตอบแทนของสินทรัพย์และผลตอบแทนจากการลงทุน” นายนิโคลาส ชู นักวิเคราะห์ด้านธนาคารของมูดี้ส์กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารต่างๆ ยังได้เตือนถึงความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
ทั้งนี้ นายหวัง จิงวู รองประธานของ ICBC กล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นหลังจากเปิดเผยผลประกอบการประจำปีว่า ICBC จะช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่า ICBC จะให้การสนับสนุนอย่างไร
ขณะที่ ธนาคาร ICBC และ BoCom รายงานผลกำไรปี 2566 แทบไม่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่วนธนาคาร AgBank รายงานกำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.9% และ BoC รายงานกำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้น 2.4% รวมถึงธนาคาร CCB รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.4% ในปีที่แล้ว
โดยความผันผวนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนซึ่งเริ่มต้นด้วยนโยบายที่มุ่งควบคุมหนี้สินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้น ทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้และการล้มละลายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนหลายแห่ง
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนกำลังผลักดันให้ธนาคารต่างๆ เร่งอนุมัติเงินกู้ใหม่ให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ขาดแคลนเงินสด ท่ามกลางความไม่เต็มใจของธนาคารต่างๆ ที่จะลงทุนในภาคธุรกิจที่ประสบปัญหาดังกล่าว