CGSI มองกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,365-1,390 จุด คัด 3 หุ้นน่าลงทุน

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (1 เม.ย. 67) มองกรอบดัชนีรายสัปดาห์ที่ 1,365-1,390 จุด หลังรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ 0.3% เทียบกับเดือนก่อนตามคาดการณ์ และตัวเลข PMI จีนที่ดีกว่าคาดการณ์อาจเป็นจิตวิทยาเช้านี้ และตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. โดยรวมแข็งแกร่ง

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้จับตา 2 ประเด็น 4 ชุดตัวเลข ประกอบไปด้วย 1.ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ตลาดคาด 2.16 แสน/ค่าแรง/ชม. ตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อน และอัตราการว่างงานที่ 3.8%, 2.ตัวเลข ADP Employment สหรัฐฯ ตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้น 1.50 แสนราย, 3.เงินเฟ้อยุโรป ตลาดคาดการณ์เพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อน และ 4.เงินเฟ้อไทย ตลาดคาดการณ์ลดลง 0.4% จากเดือนก่อน

โดยเชื่อว่าความสำคัญต่อ SET Index จะอยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และเงินเฟ้อไทย ซึ่งประเด็นแรกหากตัวเลขยังยืนเหนือกว่า 2 แสนราย หรือใกล้เคียงคาดการณ์ได้ ตลาดจะยังเชื่อมั่นถึงภาพ Soft-landing ส่วนประเด็นเงินเฟ้อไทย เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติอยากเห็นเงินเฟ้อไทยกลับมาอยู่ในแดนบวกก่อนกลับมาเข้าลงทุนในตราสารทุน เพราะเงินฝืดคือประเด็นสำคัญของนักลงทุนสถาบัน

สำหรับหุ้นแนะนำ ได้แก่ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR หลังเห็นความคืบหน้าในการปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมในทำเลสำคัญอย่างมัลดีฟส์และไทย โดยคาดการณ์ว่าราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังตัวเลขกำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโตสูงขึ้นจากปีก่อน จากอัตราค่าเข้าพักที่เพิ่มขึ้น

รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP หลังเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงจากการรับรู้ข่าวร้ายเกี่ยวกับขาดทุนรถยึดและรถมือ 2 ประมาณ 1 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 แต่ยังเชื่อว่าสินเชื่อ (Gross loan) ยังสามารถเติบโต 7.2% จากปีก่อน จากสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจ

ขณะที่ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ลดลง 9.90% ในไตรมาส 1/67 และคาดการณ์ว่ายังไม่กลับมาเป็นบวกจนถึงไตรมาส 4/67 อย่างไรก็ตาม SSSG น่าจะดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 2/67 เมื่อมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นจากโครงการรัฐหลังรัฐสภาอนุมัติพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 67 (ต.ค.66-ก.ย.67) ในวันที่ 26 มี.ค.67

โดยคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจะช่วยให้กำไรสุทธิเติบโตจากปีก่อนในไตรมาส 1/67 ถึงไตรมาส 4/67

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยตั้งสมมติฐาน GPM ในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 18.2% (เพิ่มขึ้น 170bp จากปีก่อน, เพิ่มขึ้น 130bp จากไตรมาสก่อน) สะท้อนส่วนผสมการขายที่ดีขึ้น (ยอดขายวัสดุก่อสร้างซึ่งมีอัตรากําไรตํ่ามีสัดส่วนลดลง ขณะที่สินค้าเฮ้าส์แบรนด์และสินค้าตกแต่งบ้านซึ่งมีอัตรากําไรสูงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น)

อย่างไรก็ตาม มองว่า GPM อาจไม่สามารถทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อเนื่องเพราะการกลับมาของโครงการรัฐจะส่งผลให้ความต้องการวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีอัตรากําไรตํ่าเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้นจึงปรับเพิ่มคำแนะนำของ DOHOME เป็น “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 11.10 บาท