ICHI ตั้งเป้ารายได้ปี 68 “นิวไฮ” หมื่นล้าน รับยอดขายพุ่ง-เดินเครื่องผลิตเต็มสูบ

ICHI ลั่นกำไรเพิ่มขึ้นทุกปีนับตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป วางเป้ารายได้ปี 68 แตะ 1 หมื่นล้านบาท รับเดินเครื่องจักรผลิตเต็มที่-ตลาดเครื่องดื่มชาเขียวโตแกร่ง ลุยสร้างการเติบโตตลาดในประเทศและต่างประเทศ


นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยในงานสัมมนา “โอกาสตลาดทุนปีมังกร และโผหุ้นเด่นปี 67 ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ว่า แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 2567-2569) ยังประเมินยาก เนื่องจากตลาดอาจมีปัจจัยกดดันเชิงบวก หรือเชิงลบอื่น ๆ เข้ามา แต่ทิศทางการเติบโตนอกเหนือจากรักษาส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของตลาดประเทศไทยไว้แล้ว บริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโตที่มากขึ้นในตลาดต่างประเทศต่อไปด้วย

โดยในปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 9,000 ล้านบาท เติบโต 12% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 8,085.04 ล้านบาท และยังคงมุ่งเป้าหมายไปสู่รายได้ระดับ 10,000 ล้านบาท ในปี 2568 อ้างอิงด้วยอัตราการเดินเครื่องจักรผลิตเดิมแบบเต็มที่ และตลาดเครื่องดื่มชาเขียวที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ขณะที่บริษัทประเมินจะมีความสามารถในการสร้างผลกำไรมากขึ้นทุกปีนับตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป สอดคล้องกับยอดขายที่ขยายตัว, การออกโปรดักส์พรีเมียมมาร์จิ้นสูง, การมีช่องทางการขายที่ครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม, การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ของโรงงานผลิต, การบันทึกค่าเสื่อมจากการลงทุนที่เริ่มหมดลง และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลงเหลือเพียง 4% ของยอดขายจากเดิมมากกว่า 10%

สำหรับภาพรวมตลาดและการแข่งขัน ICHI ยังคงเป็นผู้นำตลาด และมีคู่แข่งรายใหญ่อีก 1 ราย รวมมาร์เก็ตแชร์เกิน 50% และที่ผ่านมาคู่แข่งรายย่อยในตลาดหายไปมากกว่า 20 รายในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ดังนั้นมองว่าการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่จะยากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการลงทุนสูง และเจ้าตลาดใหญ่ขึ้น

ส่วนแผนการขยายตลาดในต่างประเทศ จากบทเรียนการลงทุนกิจการร่วมค้าในประเทศอินโดนีเซียที่สร้างผลขาดทุน และเพิ่งมีกำไรในปัจจุบันนั้น เบื้องต้นการขยายตลาดในประเทศใหม่จะไม่มีการลงทุนสร้างโรงงานแล้ว แต่จะเป็นการขยายตลาดในรูปแบบร่วมมือกับพันธมิตร หรือเน้นขยายตลาดแบบเน้นสร้างผลกำไรแทน

โดยปัจจุบันบริษัทมีแผนที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินในมือกว่า 70 ไร่ เพื่อขายให้กับพันธมิตรต่างประเทศ หากสามารถขอสิทธิสนับสนุนการลงทุนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ เพื่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มขนาดใหญ่กว่ากำลังผลิตของ ICHI ถึง 1.5 เท่า ด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ 900 ขวดต่อนาที (ICHI ผลิต 600 ขวดต่อนาที)

หากพันธมิตรขอสิทธิ BOI ไม่ได้ จะเป็นการลงทุนในรูปแบบของการเช่าพื้นที่แทน ปัจจุบันได้มีการหารือและทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว เช่น การไม่มีขั้นต่ำของคำสั่งซื้อ (Order) และการเป็นซัพพลายให้แก่ ICHI ตลอดไป เป็นต้น หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป” นายตัน กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะแยกฐานกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายไม่ได้สูงมากไปผลิตในโรงงานที่ไม่ใช่เครื่องจักรแบบอัตโนมัติ เนื่องจากสามารถหยุดการผลิตบ่อยได้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของเครื่องจักรผลิตปัจจุบันที่เป็นระบบอัตโนมัติ หากหยุดการผลิตจะมีค่าใช้จ่ายสูง ส่วนกำลังการผลิตที่เหลืออยู่สามารถสร้างรายได้จากการจ้างผลิต (OEM) เสริม หรือร่วมกับพันธมิตร เพื่อเติบโตไปคู่กันแทนการแข่งขันกันเอง

ด้านธุรกิจใหม่ ๆ นอกเหนือจากธุรกิจหลัก บริษัทได้มีการศึกษาการลงทุนมาค่อนข้างหลากหลาย แต่ยังไม่เจอธุรกิจที่ดีเท่าธุรกิจหลัก หากเทียบกับเงินลงทุนที่จะเสียไป

นายตัน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าภาวะโลกร้อนช่วยส่งเสริมตลาดเครื่องดื่มให้ขยายตัว บวกกับเด็กยุคใหม่ที่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่โดดเด่น ซึ่งช่วยหนุนการบริโภคที่มากขึ้นเช่นกัน

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 น่าจะออกมาดี สะท้อนจากกำลังการผลิตที่สูง และน่าจะดีมากขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2/2567 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย และเป็นช่วงเทศกาลสำคัญอย่างสงกรานต์

Back to top button