โบรกแนะซื้อ AAI เป้า 5.60 บ. ลุ้นกำไร Q1 โต 2 เท่าตัว รับธุรกิจ “อาหารสัตว์เลี้ยง” ฟื้น

AAI ลุ้นกำไรไตรมาส 1/67 โต 252% แตะ 160 ล้านบาท รับรายได้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัว คาดกำไรปี 67 แตะ 584 ล้านบาท โบรกแนะนำ “ซื้อ” อัพราคาเป้าหมายใหม่ 5.60 บาท ชูยีลด์สูง 4%


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (3 เม.ย. 67) ว่า ประเมินกำไรปกติในไตรมาส 1/2567 ของ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI จะอยู่ที่ 160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 3% จากไตรมาสก่อนหน้า

โดยการเติบโตทั้งรายไตรมาสและรายปีนั้น ได้รับปัจจัยปัจจัยสำคัญมาจาก 1) รายได้ที่เติบโต 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวอยู่ราว 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับอานิสงส์จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัว 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า มาจากสถานการณ์รายการสินค้าคงคลังของลูกค้าส่วนใหญ่กลับสู่ภาวะปกติ แต่ถูกชดเชยบางส่วนจากรายได้ธุรกิจอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human food) ชะลอตัวลง 28% หลังราคาขายลดลงตามต้นทุนปลาทูน่า

รวมถึงบริษัทมีความระมัดระวังมากขึ้นจากสถานการณ์ตลาดตะวันออกกลาง (คิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้ธุรกิจ Human food) ยังชะลอตัว และ 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 15.7% ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 9.3% และในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 14.7% เป็นไปตามการขยายตัวของรายได้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่สัดส่วนรายได้ธุรกิจ Human food ลดลงอยู่ที่ 17% เมื่อเทียบกับในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 25% และในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 21% ซึ่งธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่น้อยกว่า

นอกจากนี้ ยังปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 เพิ่มขึ้น 12% มาอยู่ที่ 584 ล้านบาท (เติบโต 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขึ้นมาอยู่ที่ 15.5% จากเดิมที่ 15% เพื่อสะท้อนสัดส่วนรายได้ธุรกิจ Human food จะยังทรงตัวต่ำในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และปรับค่าใช้จ่าย SG&A/Sale ลดลงเป็น 5.9% จากเดิม 6.4% หลังบริษัทมีการชะลอค่าใช้จ่ายการตลาดลง โดยเฉพาะในสินค้าแบรนด์ สาเหตุจากการแข่งขันที่สูงและเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นไม่เต็มที่

สำหรับในไตรมาส 2/2567 ประเมินกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องการทยอยกลับมาเติมสต็อกของลูกค้าอาหารสัตว์เลี้ยง และอานิสงส์ต้นทุนทูน่าอ่อนตัว

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.60 บาท โดยมีปัจจัยที่เร่งการเติบโตมาจากการขยายลูกค้าใหม่ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 นอกจากนี้มีปัจจัยหนุนจากเงินปันผลงวดครึ่งหลังปีนี้ค่อนข้างสูง อยู่ที่ 0.18 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน (dividend yield) อยู่ที่ 4% และกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พฤษภาคม 2567

Back to top button