เปิด 6 หุ้นรับกระแส “รถอีวี” บูม! ยอดจอง “มอเตอร์โชว์” ทะลัก 1.7 หมื่นคัน

โบรกฯ คัด 6 หุ้นรับกระแส “รถอีวี” บูม หลังพบยอดจองในงาน Motor Show 2004 โตกว่า 90% จากปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 1.75 หมื่นคัน แนะซื้อ WHA ราคาเป้า 5.20 บาท และ SJWD ราคาเป้าหมาย 21 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DAOL เปิดเผยว่า จากกรณียอดจองรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในงาน Motor Show 2004 ยังเติบโตดี ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เผยมียอดจองรถยนต์ภายในงานปีนี้ (27 มี.ค.-7 เม.ย.67) อยู่ที่ 53,438 คัน เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปีก่อน

โดยแบ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป 35,921 คัน เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วน 67% (ปี 66 อยู่ที่ 78.50%) ของยอดจองรถยนต์ ส่วนยอดจองรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่ที่ 17,517 คัน +90% จากปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วน 33% ของยอดจองรถยนต์ (ปี 66 อยู่ที่ 21.50%) โดยค่ายรถยนต์ Toyota ยังมียอดจองสูงสุดเป็นอันดับ 1 ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ติด Top10 มี 5 อันดับ ได้แก่ BYD, MG, CHANGAN, AION และ GWM

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกตามคาดการณ์ต่อยอดจองรถ EV ที่ยังคงได้รับความนิยม โดยมีสัดส่วนยอดจอง EV อยู่ที่ 33% เทียบกับงาน Motor Show 2024 ที่ 21.50% และ Motor Expo 2023 ที่ 38% โดยยอดจอง EV ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตรถสัญชาติจีน ได้แก่ BYD, AION, MG, CHANGAN และ GWM

ทั้งนี้ ประเมินว่าความต้องการรถ EV จะยังคงเพิ่มขึ้นในอนาคต หนุนโดย 1.มาตรการสนับสนุนการใช้รถ EV 3.0 ที่ผ่านมา และปัจจุบันยังมีมาตรการ EV3.5 ช่วยหนุนการนาเข้ารถ EV มาขายในประเทศ รวมถึงการตั้งโรงงานผลิตรถ EV ในไทย, 2.หลายค่ายรถยนต์จากจีนจะเริ่มผลิตและจำหน่ายรถ EV ในไทยได้ ช่วยตอบสนองความต้องการรถ EV ในไทยที่เพิ่มขึ้น

พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินหุ้นที่ได้ประโยชน์จากความต้องการรถ EV ที่เพิ่มขึ้น เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจนิคม (บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA), ตัวแทนขายรถ EV (บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO, บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7, บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP, บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH) และผู้ประกอบการ logistics รถ EV (บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD) ซึ่งในกลุ่ม logistics จะได้ประโยชน์จากการนำเข้า EV ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ครึ่งหลังของปี 67 ค่ายรถ EV จะเริ่มผลิตได้ในประเทศ จะทำให้นำเข้า EV ลดลง

สำหรับ WHA แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท หลังมองเป็นบวกต่อยอดขายรถ EV ที่เพิ่มขึ้น สะท้อนการลงทุน และยอดพรีเซลล์ในไทยที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับกลุ่ม supply chain ที่จะเข้ามาต่อเนื่องตามผู้ผลิตรถยนต์ EV ที่เริ่มใช้สิทธิประโยชน์ EV 3.5 นอกจากนี้ประเมินรายได้จากการขายน้ำและส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น จากการเริ่มการผลิตรถยนต์ EV ในไทยปี 67 เพื่อผลิตรถยนต์ชดเชยสิทธิประโยชน์ EV 3.0 บวกต่อ WHA ที่มีลูกค้าเป็นผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่ ทั้ง BYD, GWM, MG และ CHANGAN

ด้าน SUSCO, COM7, ASAP, AH จะได้ผลบวกจากการเป็นผู้ประกอบการค้าปลีก หรือดีลเลอร์รถยนต์ EV ที่มียอดจองเพิ่มขึ้น ได้แก่ SUSCO เป็นหนึ่งในดีลเลอร์ BYD, COM7 เป็นดีลเลอร์ให้ AION และ ASAP, AH เป็นดีลเลอร์ให้ CHANGAN จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าจะต้องระยะเวลาดำเนินงานประมาณ 1-2 ปี เพื่อที่จะคุ้มทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเสื่อมราคาโชว์รูม และค่าใช้จ่ายพนักงาน

ขณะที่ SJWD แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นราว 11% มาจากบริการโลจิสติกส์ขนส่งรถยนต์ โดย SJWD มีการรับงานให้บริการด้านโลจิสติกส์สำหรับรถ EV เพิ่มขึ้นจากทุกค่ายรถ EV จากจีน โดยเฉพาะค่าย BYD ที่มีบริการค่อนข้างครบวงจร

Back to top button