สะพัดปรับครม. 24 เม.ย.นี้! “พิชัย” ผงาดขุนคลังควบรองนายก จับตา “ตลท.” แต่งตั้งประธานใหม่
ฟันธง! “พิชัย ชุณหวชิร“ ผงาดขุนคลังควบรองนายกแทน "สมศักดิ์" ที่เตรียมไปนั่งสาธารณสุข ฟาก "หมอชลน่าน" ควงแขน "สุทิน" กลับสภาเป็นแม่ทัพใหญ่คุมการเมือง เปิดทาง "นายกนิด" กุมบังเหียนกลาโหมอีกตำแหน่ง คาด 24 เม.ย.นี้ชัดเจน! ด้านบอร์ดตลาดหลักทรัพย์เตรียมเลือกประธานใหม่เร็วๆนี้ ก่อนกระบวนการสรรหาผู้จัดการคนใหม่จะเริ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ปรากฏว่า มีกระแสข่าว การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ออกมาเป็นวงกว้าง ทั้งการปรับ ครม.ที่มีสัดส่วน ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้าน เข้ามาเติมเสียงของรัฐบาล ซึ่งมีอยู่เดิม 314 เสียง แม้แกนนำของรัฐบาล รวมถึงนายเศรษฐา จะออกมาปฏิเสธว่าเสียง ส.ส.ชองพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่เพียงพอแล้ว
แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวอ้างอิงแหล่งข่าวจาก “ทำเนียบรัฐบาล” ว่า การปรับ ครม.จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 เม.ย. 67 หรืออย่างช้าคือช่วงต้นเดือน พ.ค. 67 เพื่อกระชับการทำงานฝ่ายบริหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยเฉพาะกระทรวงด้านเศรษฐกิจที่ต้องเร่งสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์โดยเร็วที่สุด เพื่อเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชน ทำให้การปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ นายเศรษฐา จะสละเก้าอี้ รมว.คลัง เพื่อเปิดทางให้บุคคลที่มีความสามารถอย่าง นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เข้ามานั่งเก้าอี้ “ขุนคลัง” เพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจในทุกมิติ และอาจนั่งควบในตำแหน่ง “รองนายกรัฐมนตรี” อีกหนึ่งตำแหน่งด้วย
ทั้งนี้ เมื่อนายพิชัย มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นั้นหมายความว่า จะต้องลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งจะทำให้บอร์ดของ ตลท.ว่างลง 1 ตำแหน่ง และเป็นหน้าที่ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะต้องสรรหาบุคคลขึ้นมาทำหน้าที่กรรมการ ตลท.แทนนายพิชัย หลังจากนั้นบอร์ด ตลท.จึงจะมาเลือกหนึ่งในคณะกรรมการขึ้นเป็นประธาน บอร์ด ตลท.คนใหม่
ขณะเดียวกัน คำถามที่ตามมา เมื่อนายพิชัย จะนั่งควบตำแหน่งรองนายกฯ อีกตำแหน่ง แล้วใครที่จะเป็นผู้สละเก้าอี้ “รองนายกรัฐมนตรี” ทั้งนี้จากรายงานที่อ้างอิงแหล่งข่าวเดิม ระบุว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะออกจากตำแหน่งนี้ เนื่องจากได้รับมอบหมายให้ไปทำหน้าที่ “รมว.สาธารณสุข” แทน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่จะก้าวลงจากเก้าอี้รัฐมนตรี โดยนพ.ชลน่านจะกลับไปคุมเกมฝ่ายนิติบัญญัติให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำของรัฐบาลที่มีงานสำคัญรออยู่ ทั้งการพิจารณากฎหมายสำคัญ และศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคต
เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง ที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง “รมว.กลาโหม” เพื่อกลับไปเฉิดฉายเป็นดาวสภาอีกครั้ง ในฐานะแม่ทัพใหญ่ร่วมกับนพ.ชลน่าน โดยหลายฝ่ายเห็นพ้องตรงกันว่า นายสุทิน และนพ.ชลน่านมีความถนัด และสามารถคุมเกมในสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ตำแหน่ง “รมว.กลาโหม” นายเศรษฐา จะดึงกลับมาดูแลด้วยตัวเอง และจะควบตำแหน่งดังกล่าวอีกหนึ่งตำแหน่ง หลังจากได้ชิมรางในการประชุมหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณเมืองเมียวดี-แม่สอด พร้อมมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็น รมช.กลาโหม เคียงบ่าเคียงไหล่กับ “นายกเศรษฐา” ในการบริหารงานด้านความมั่นคง
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ อาจมีการสลับเก้าอี้ในการบริหารเพิ่มเติม นั้นคือ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีโอกาสจะสลับตำแหน่งกับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม