CGSI มองกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,380-1,410 จุด ชู KCE-PTTEP เด่น
CGSI มองกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ระหว่าง 1,380-1,410 จุด หลังตลาดรับรู้ปัจจัยไปบ้างแล้วช่วงหยุดยาวสงกรานต์ แนะนำ KCE-PTTEP น่าลงทุน ลุ้นผลงานปีนี้สดใส แนวโน้มกำไรต่อหุ้นฟื้น
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 เม.ย. 67) ว่า คาดการณ์กรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) อยู่ระหว่าง 1,380-1,410 จุดช่วงสัปดาห์นี้ หลังผ่านช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ โดยตลาดรับรู้ข่าวและเหตุการณ์ใหม่ไปบ้างแล้ว อาทิ
1) ความอ่อนไหวทางการเมืองโลก อย่างอิสราเอลและอิหร่านในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
2) ถ้อยแถลงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเรื่องของการปรับลดดอกเบี้ย และเงินเฟ้อสหรัฐที่ยังสูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดมองว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้และมีแนวโน้มที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนาน
3) ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มรายงานโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังประเมินความเสี่ยงขาลง (Downside risks) ต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่เกินระดับ 10-20 จุด จากประเด็นสถาณการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจาก
1) มูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้วหรือบริเวณติดลบ 2 S.D. (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)
2) เกิดแรงเทขายที่กดดันตลาดหุ้นไทย สาเหตุจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก
ดังนั้น ปัจจัยใหม่อาจจะเข้ามากดดันตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แต่ในภาพรวมแล้วสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ณ ปัจจุบันนั้น เป็นลักษณะภาพความผันผวนมากกว่าการปรับตัวลดลง
สำหรับหุ้นแนะนำ มีดังนี้
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า บริษัทจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์แผงวงจรพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ในตลาดโลกปี 2567 มาจากความต้องการแอปพลิเคชั่น อย่างเช่น Server, Smartphone และ PC อีกทั้งคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีกำไรปกติต่อหุ้นในปี 2567 เติบโต 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงและจากการคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น
บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า บริษัทมีแนวโน้มรายงานปริมาณการผลิตก๊าซที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/2567 เป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตของแหล่งก๊าซเอราวัณและยอดขายน้ำมันจากโครงการ SK309&331ในมาเลเซียที่แข็งแกร่ง รวมถึงคาดการณ์ว่าความขัดแย้งจากสงครามตะวันออกกลางและรัสเซีย จะช่วยหนุนราคาน้ำมันและกำไรต่อหุ้นให้เพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น