ตลท.เปิดเฮียริ่งปรับเกณฑ์หุ้นเข้า “SET50-SET100” ใหม่! โบรกชี้บวกต่อ GULF-INTUCH-BJC

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดรับฟังความเห็นปรับเกณฑ์หุ้นเข้า SET50-SET100 ใหม่ บล.เอเซีย พลัส ประเมินประเด็นดังกล่าวเป็นเซนติเมนต์เชิงบวกต่อหุ้น 3 บริษัท ได้แก่ GULF-INTUCH-BJC


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ (17 เม.ย. 67) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมเปิดรับฟังความเห็นปรับเกณฑ์หุ้นเข้า SET50 และ SET100 ใหม่ตั้งแต่วัน 17 เม.ย. 67 จนถึงวันที่ 26 เม.ย. 67 โดยปรับวิธีการพิจารณาลดเกณฑ์สภาพคล่องของหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีให้เกิดความชัดเจน สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่สภาพคล้องเบาบางลง และสอดคล้องกับแนวทางในต่างประเทศ

โดยยังคงใช้ปัจจัยที่ใช้พิจารณาสภาพคล่องทั้งมูลค่าการซื้อขาย (TRADINGVALUE) แต่มีข้อเสนอเปลี่ยนเป็น TRADING VALUE มากกว่าหรือเท่ากับ 25% ต่อเดือน (จากเดิมขั้นต่ำ 20% ต่อเดือน) และอัตราส่วนจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขาย (TURNOVER RATIO) มีข้อเสนอ TURNOVER RATIO มากกว่า 1% ต่อเดือน (เดิมเริ่มที่ 2% ต่อเดือน) โดยทั้ง 2 กรณีต้องเข้าเกณฑ์ทั้งหมด 9 ใน 12 เดือน

ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินประเด็นดังกล่าวเป็นเซนติเมนต์เชิงบวกต่อหุ้น 3 บริษัท คือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH และ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC

อย่างไรก็ตามทางฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินว่า GULF และ INTUCH จะไม่หลุดดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบครึ่งหลังของปี 2567 ซึ่งถ้าใช้เกณฑ์เดิม (และสมมุติให้ตัวเลขเดือน เม.ย. 67 และ พ.ค. 67 เท่ากับเดือนมี.ค. 67 ทาง GULF และ INTUCH มีเดือนที่ TURNOVER เกิน 2% เพียง 6 ใน 12 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น (ไม่ผ่านเกณฑ์ 9 ใน 12 เดือน) แต่ถ้าใช้เกณฑ์ใหม่ TURNOVER มากกว่าหรือเท่ากับ 1% จะผ่านเกณฑ์สภาพคล่อง 9 ใน 12 เดือน

ขณะที่ BJC มีโอกาสเข้า SET50 และ SET100 ในรอบครึ่งหลังของปี 2567 เพราะถ้าหย่อนเกณฑ์สภาพคล่องลงมาเป็น TURNOVER มากกว่าหรือเท่ากับ 1% ต่อเดือน BJC จะผ่านเกณฑ์สภาพคล่องทั้ง 12 เดือน

นอกจากนั้นทาง GULF, INTUCH และ BJC ยังมีประเด็นที่น่าสนใจค่อยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งในอนาคต

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” GULF ราคาเป้าหมาย 51 บาท คาดกำไรปีนี้เติบโตดีเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ตามการ COD โครงการ GPD หน่วยที่ 3&4 และหินกอง หน่วยที่ 1 โดยไตรมาส 2 ปี 2567 จะเป็นการยกระดับกำไรรายไตรมาสขึ้นอีก เนื่องจากการเริ่ม COD ของ GPD & หินกองในเดือนมี.ค. 67 ขณะเดียวกันคาดจะเห็นความชัดเจนเรื่องการเปิดคัดเลือก Renewable รอบใหม่ และแผน PDP ฉบับใหม่เร็วๆนี้ ซึ่งเป็นโอกาสเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่

รวมถึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”  INTUCH ราคาเป้าหมาย 76 บาท ระบุว่า คาดกำไรปกติปี 2567 จะทรงตัวใกล้เคียงปีก่อน แม้ AIS รับผลกระทบจากการเทคโอเวอร์ 3BB ที่คาดผลขาดทุนจะยังมีอยู่ในปีนี้ แต่เชื่อว่าการ synergy กับ 3BB ช่วยหนุนรายได้หลักปีนี้เติบโต 13-14% บวกกับบริษัทคุมค่าใช้จ่ายการตลาดสามารถชดเชยได้ ก่อนกลับมาเติบโตอีกครั้งในปีหน้า

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า BJC ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะหนุนให้ยอดขายและกำไรจะปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2567 เนื่องจากบริษัทมียอดขาย 20% ในงบการเงินรวมมาจากร้านค้าขนาดเล็กของ BigC B2B และร้าน “โดนใจ” ซึ่งเป็นร้านของผู้ค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ซื้อสินค้าจาก BigC

Back to top button