WTI ร่วง 2.6% แตะ 83.86 ดอลลาร์ หลังเหตุสู้รบ “อิหร่าน-อิสราเอล” ไม่บานปลาย
WTI ร่วง 2.6% แตะระดับ 83.86 ดอลลาร์/บาร์เรล จากช่วงเช้าสูงสุดระดับ 86.09 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังนักลงทุนคลายกังวล เหตุสงคราม “อิหร่าน-อิสราเอล” ไม่บานปลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 เม.ย. 67) ณ เวลา 13:52 น. ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 83.86 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 86.09 ดอลลาร์/บาร์เรลทันทีที่มีรายงานข่าวการเปิดฉากโจมตีระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ด้วยโดรนทางอากาศ จนทำให้ทั่วโลกเกิดความกังวลที่ส่งผลให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางบานปลาย ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก
อย่างไรก็ตาม หลังมีความชัดเจนเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอลไม่ได้มีความรุนแรงอย่างที่คาดการณ์ โดย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว 3 รายว่า อิสราเอลได้ทำการโจมตีดินแดนอิหร่านในวันนี้ (19 เม.ย.) แต่เป็นการโจมตีด้วยโดรน และไม่มีการโจมตีด้วยขีปนาวุธ ขณะที่เจ้าหน้าที่อิหร่านรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ว่า เสียงระเบิดที่ผู้คนจำนวนมากได้ยินในเมืองอิสฟาฮานของอิหร่านนั้น เกิดจากการทำงานของระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่าน พร้อมกับการสั่งปิดน่านฟ้าเป็นการชั่วคราว ก่อนที่มีรายงานว่า อิหร่านยกเลิกข้อจำกัดการบินทั่วประเทศแล้ว เปิดทางให้บริการเที่ยวบินปกติในสนามบินทุกแห่งได้อีกครั้ง
ประเด็นกล่าวทำให้ราคาน้ำมัน WTI ปรับลดลงราว 3 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากมีแรงเทขายจากนักลงทุนที่คลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สู้รบในครั้งนี้