ทำความรู้จัก TERA หุ้นเทคปลอดหนี้ ปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ!
ไอพีโอน้องใหม่ TERA เตรียมเข้าเทรดตลาด mai วันที่ 24 เม.ย.นี้ การันตีผู้ให้บริการด้าน ICT ครบวงจร ระดมทุน 157.50 ล้านบาท นำไปขยายธุรกิจ T.Cloud เจนเนอเรชั่น 3 และลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพิ่มศักยภาพเติบโต
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พานักลงทุนมารู้จักหุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่เตรียมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 เม.ย. 67 นี้ คือ บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA หุ้นสายเทคฯ ปลอดหนี้ เข้ามาระดมทุนเพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ภายใต้การบริหารงานของ นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนเก่ง ที่มีความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ด้วยอัตราการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษี สำรองตามกฎหมาย และสำรองต่างๆ ทั้งหมดในแต่ละปีที่มีผลกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งหาได้น้อยมากในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็ก จึงนับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าจะดึงดูดใจนักลงทุนได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับ “เทอร์ราไบท์” ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ให้บริการและลงทุนในกิจการอื่นที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันทางธุรกิจต่าง ๆ ถือเป็นหนึ่งใน IT Solution Provider ที่นำเสนอโซลูชันไอทีที่มีคุณภาพ ให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญในโซลูชันเป็นอย่างดี
“บริษัทเราไม่มีหนี้เงินกู้ เงินจากการขายไอพีโอเราจะนำมาขยายตัว T.Cloud เจนเนอเรชั่น 3 ราว 60 ล้านบาท และไม่กังวลเรื่องการต่อสัญญาลูกค้าเก่า ขณะที่ลูกค้าใหม่เราก็มีศักยภาพการแข่งขันสูง ส่วนเงินที่เหลือจะนำไปซื้อบริษัทใหม่เข้ามาเสริมแกร่งในอนาคต” นายสุรสิทธิ์ กล่าว
หากลองย้อนไปดูงบการเงินของ TERA ช่วง 3 ปีย้อนหลัง จะพบว่าเป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 30% โดยปี 64 มีกำไรสุทธิ 18.71 ล้านบาท ต่อมาในปี 65 มีกำไรสุทธิ 25.79 ล้านบาท และในปี 66 มีกำไรสุทธิ 28.96 ล้านบาท ซึ่งในช่วงปี 66 สาเหตุที่การเติบโตดรอปลงไปเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษแบบครั้งเดียว นั่นคือการเตรียมเข้าตลาดหุ้น
ดังนั้นสิ่งที่น่าจับตามองในปีนี้ นั่นคือผลกำไรที่จะเติบโตโดยปราศจากค่าใช้จ่ายพิเศษ แถมในช่วงต่อจากนี้อาจได้เห็นโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่จะสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจากประเด็นนี้ยิ่งทำให้มองเห็นภาพการเติบโตในปี 68 ชัดเจนมากขึ้น จากการรับรู้รายได้เต็มปีของ T.Cloud เจนเนอเรชั่น 3 นั่นเอง
นายสุรสิทธิ์ ยังตั้งเป้าหมายการเติบโต 3 ปีต่อจากนี้ด้วยการเพิ่มสัดส่วนบริการเป็น 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 45% ขณะที่สัดส่วนลูกค้าปัจจุบันเป็นเอกชนกว่า 90% ที่เหลือเป็นหน่วยงานภาครัฐประมาณ 10%
โดยหุ้น TERA เตรียมเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในวันที่ 24 เม.ย.67 ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 1.75 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ระดับ 14.50 เท่า มีจำนวนหุ้นที่เสนอขายจำนวน 90 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 157.50 ล้านบาท
“สำหรับ TERA นั้นผมกับทีมทำบริษัทนี้กันมาตั้งแต่เป็นฝันในกระดาษ ทำจนโตและสามารถนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นได้ และมุ่งมั่นอยากให้บริษัทเติบโตต่อในยุคถัดๆ ไป เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการนำเงินระดมทุนมาใช้ขยายธุรกิจ บริษัทเราไม่มีหนี้ มีกระแสเงินสดที่แข็งแรง และมีศักยภาพในการเติบโตที่ชัดเจน โดยทีมรันแล้ว รันอีก และจะรันต่อไป ” นายสุรสิทธิ์ กล่าว