เปิดงบ “กลุ่มแบงก์” กวาดกำไร Q1 แตะ 6.4 หมื่นล้าน KBANK โตสุด 26%

“กลุ่มธนาคารพาณิชย์” ทั้ง 10 แห่ง ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ออกมาครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย KBANK, BBL, SCB, KTB, BAY, TTB, TISCO, KKP, CIMBT และ LHFG

สำหรับกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2567 ของธนาคารทั้ง 10 แห่งรวมทั้งสิ้น 63,509.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 60,283.58 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากยอดสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ธนาคารที่มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 เติบโตแกร่ง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ KBANK, SCB, KTB, BBL และ TBB โดย KBANK ส่วนธนาคารที่กำไรสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ TISCO, BAY, CIMBT, KKP และ LHFG

รายละเอียดังตารางประกอบ

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13,485.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,741.06 ล้านบาท เป็นผลจากายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 38,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 3,653 ล้านบาท หรือ 10.47% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/66 โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย

ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 185 ล้านบาท หรือ 2.28% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุน ค่าธรรมเนียมรับจากการรับรองตั๋วและค้ำประกัน และค่าธรรมเนียมรับจากธุรกิจบัตร ในขณะค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,333.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,294.52 ล้านบาท หนุนโดยผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น ด้านส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) ขยายตัวได้ดีเช่นกันที่ 0.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมหลักในกลุ่มเป้าหมาย เช่น ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ยังคงเห็นการเติบโตได้ดี โดยช่วยหนุนภาพรวมรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ส่งผลให้รายได้รวมจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 17,670 ล้านบาท

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,078.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,066.60 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมจากการดำเนินงานขยายตัวร้อยละ 15.4 จากพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตอย่างระมัดระวัง เพื่อรักษาสมดุลด้านความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มุ่งเน้นคุณภาพ รวมถึงการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ

รวมทั้งธนาคารตั้งค่าเผื่อด้อยค่าทรัพย์สินรอการขายตามศักยภาพของทรัพย์สินอย่างเหมาะสมในไตรมาส 1/67 ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับที่เหมาะสม ยังคงรักษา Coverage ratio ในระดับสูงคงที่ประมาณร้อยละ 181 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับเมื่อสิ้นปี 2566 พร้อมทั้งบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างยืดหยุ่นและระมัดระวังต่อเนื่อง

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,523.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.89% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10,129.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 11.10% จากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ตามภาวะอัตราดอกเบี้ยสุทธิด้วยต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝาก

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,281.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,995.38 ล้านบาท ได้รับแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 31,761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 2.1% จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในธุรกิจสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารไทยพาณิชย์ และการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทลูกอื่น ๆ

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,542.61 ล้านบาท ลดลง 13.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8,676.29 ล้านบาท สาเหตุจากค่าใช้จ่ายจากการดําเนินงานไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 16,584 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 3,254 ล้านบาท หรือ 24.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 13,330 ล้านบาท

รวมถึงผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12,271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 5,799 ล้านบาท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,733.02 ล้านบาท ลดลง 3.32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,792.58 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยชะลอตัวลงร้อยละ 5.5 เป็นผลมาจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัวท่ามกลางภาวะตลาดทุนที่ซบเซา ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์อ่อนตัวลงตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ชะลอตัว

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,506.02 ล้านบาท ลดลง ลดลง 27.76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,084.86 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 1,579 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8.1% จากปีก่อนมีรายได้ 1,718 ล้านบาท โดยหลักจากรายได้ค่านายหนาประกันที่ปรับตัวลดลงตามการชะลอตัวของสินเชื่อปล่อยใหม่ รวมถึงรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงเช่นกันตามภาวะตลาดทุนที่ยังคงซบเซา

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 626.11 ล้านบาท ลดลง 204 ล้านบาท หรือปรับตัวลง 24.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 830.13 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน

โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจำนวน 28.80 ล้านบาท หรือปรับตัวลง 1.2% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของเงินรับฝาก ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจำนวน 26.20 ล้านบาท หรือ 8% มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการ อีกทั้งรายได้อื่นลดลงจำนวน 267.70 ล้านบาท

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 231.70 ล้านบาท หรือ 11.80% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขายและค่าภาษีอากร

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 399.20 ล้านบาท ลดลง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 699.87 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 369.40 ล้านบาท ลดลง 28.20% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 66 ส่วนใหญ่เป็นผลการลดลงของรายได้เงินปันผลลดลง

นอกจากนี้ ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไตรมาสที่ 1 ปี 67 อยู่ที่ 526.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน