KKPS แนะซื้อ SCB เคาะเป้า 128 บ. ชูหุ้นท็อปพิก-ปันผลสูง หลังกวาดกำไร Q1 แตะ 1.13 หมื่นลบ.
บล.เกียรตินาคินภัทร แนะซื้อ SCB ราคาเป้าหมาย 128 บาท ชูหุ้นท็อปพิกและปันผลสูงหลังกวาดกำไรไตมาส 1/67 แตะ 1.13 หมื่นล้านบาท พร้อมมองว่าการเข้าซื้อ Home Credit Vietnam จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับ SCB ราว 2-3%
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากการรายงานผลประกอบการของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท ซึ่งตรงกับที่ตลาดและฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่ส่วนต่างของรายได้กับต้นทุนลดลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้าจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ลดลง
ทั้งนี้ การเติบโตของสินเชื่อขยายตัว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักๆ มาจากสินเชื่อบ้าน (ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน), Auto X (เพิ่มขึ้น 230% เมื่อทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) และจากบริษัท (เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) ส่วน (NIM) ลดลง 0.13% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝาก (LDR) ของ SCB เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 97% จาก 95% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.67% จาก 1.54% ในไตรมาสก่อนหน้า
โดยฝ่ายวิเคราะห์ระบุว่าผลประกอบการของ Auto X ออกมาค่อนข้างดีและสามารถทำกำไรติดต่อกันสามไตรมาส ในขณะที่ Card X ยังคงเผชิญกับผลขาดทุนอยู่ ซึ่งปัจจัยหลักมาจาก Credit Cost ที่สูงขึ้นซึ่ง Credit Cost ของ Gen-2 (ธุรกิจที่เกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อการบริโภค) เพิ่มขึ้นจาก 8.1% ใน ไตรมาส 4 ปี 2566 เป็น 9.6% ใน 4 ไตรมาส 1 ปี 2567
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบจาก Credit Cost บริษัทจึงลดความเสี่ยงในกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลลงและหันไปเพิ่มสินเชื่อบัตรเครดิตแทน รวมถึงยังคงปรับปรุงระบบโดยรวมทั้งหมดควบคู่กันไป ซึ่งฝ่ายบริหารคาดการณ์ว่า Card X จะเริ่มเห็นผลประกอบการที่กลับมาเติบโตได้ในครึ่งปี 2567
นอกจากนี้ KKPS มองว่าการเข้าซื้อ Home Credit Vietnam จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับ SCB ราว 2-3% และจะมีผลกระทบต่ออัตราส่วนชั้นดีสินทรัพย์สุทธิ (CET-1 ratio) ประมาณ 1-1.3% โดยมองว่าจะมีผลกระทบต่อ CET-1 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะเดียวกันการจ่ายปันผล 80% ของกำไรสุทธิจะทำให้ CET-1 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.4-0.5% ต่อปี นอกจากนั้นแล้ว SCB ยังระบุว่าจะไม่มีธุรกรรมใหญ่ๆเช่นนี้ในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า เนื่องจากบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าคืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน โดย KKPS คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 128 บาท และยกให้เป็นหุ้นท็อปพิกจากอัตราปันผลที่ดี