“ดาวโจนส์” ร่วง 500 จุด หลัง GDP สหรัฐไตรมาส 1 เหลือ 1.6% ต่ำคาด-เงินเฟ้อสูง
"ดาวโจนส์" ร่วงกว่า 500 จุด หลังเผย GDP สหรัฐไตรมาส 1/67 เหลือ 1.6% ต่ำกว่าคาดการณ์นักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4% ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25 เม.ย.67) ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 500 จุด หลังเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูง โดย ณ เวลา 20.33 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,955.09 จุด ลบ 505.83 จุด หรือ 1.32%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.7% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.6% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4%
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 1/2567 ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค สำหรับในปี 2566 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.2%, 2.1%, 4.9% และ 3.4% ในไตรมาส 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 3.4% ในไตรมาส 1/2567 สูงกว่าระดับ 1.8% ของไตรมาส 4/2566 ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
ขณะเดียวกันการซื้อขายในตลาดได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของหุ้นบริษัท เมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
ด้านราคาหุ้นของเมตาดิ่งลงกว่า 15% หลังนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในไตรมาส 2/2567
การเปิดเผยรายงานผลประกอบการของเมตาสร้างความวิตกต่อนักลงทุนก่อนการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยี โดยบริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ป และอัลฟาเบท อิงค์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้
ด้านนักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.5% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือนก.พ.