WHA-AMATA ท็อปพิก! รับยอดขายที่ดินสูงสุดรอบ 20 ปี
บล.เกียรตินาคินภัทร มองยอดขายที่ดินอุตสาหกรรมไทยปี 66 เติบโตขึ้นสูงที่สุดรอบ 20 ปี หลังได้รับอนุมัติ BOI มูลค่า 1.79 แสนล้านบาท มีมุมมองบวกต่อ WHA-AMATA เด่น! โบรกยังคงแนะนำ “ซื้อ”
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดขายที่ดินสำหรับการอุตสาหกรรมของไทยในปี 2566 เติบโตขึ้นอยู่ที่ระดับสูงที่สุดในรอบ 20 ปี โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวสอดคล้องกับมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่มูลค่า 1.79 แสนล้านบาทในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเป็นปีที่มียอดขายสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 5,624 ไร่ในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 65% (สูงกว่าระดับ 5,372 ไร่ในปี 2555) โดยมีพื้นที่ 4,888 ไร่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเพิ่มขึ้น 77% (มากกว่าระดับ 4,797 ไร่ในปี 2555)
สำหรับความต้องการขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมใหม่มีแนวโน้มในทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากมีการยื่นขออนุมัติผ่าน BOI ในไตรมาส 4/2566 ที่สูงมาก และยังเห็นถึงความต้องการที่สูงจากการสอบถามรายละเอียดเข้ามาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานี้ สำหรับทั้งบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA และบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA
ทั้งนี้ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ระบุว่า ด้วยอุปสงค์การขายที่ดินที่สูงขึ้นสวนทางกับอุปทานที่ลดลงทำให้ WHA ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านการขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมในเขต EEC กว่า 41% ในปี 2566 โดยขายที่ดินในราคาที่สูงขึ้นราว 10% ในปี 2566 และ 3-5% ในเดือนมกราคม 2567
นอกจากนี้ AMATA ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 30% ก็ได้เริ่มขึ้นราคาขายที่ดินราว 9% ในเดือนมกราคม 2567 ที่อมตะซิตี้ ชลบุรี เป็นมูลค่า 12 ล้านบาทต่อไร่ และอมตะซิตี้ ระยอง เป็นมูลค่า 4.9 ล้านบาทต่อไร่
โดยระบุถึงการที่มีต่างชาติเข้ามาเน้นการลงทุนในไทยมากขึ้น ทั้งนี้ ให้เหตุผลว่าการลงทุนด้านการผลิตจากต่างประเทศเข้าสู่วงจรขาขึ้นจากการปรับเปลี่ยนการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การย้ายฐานการผลิตจากจีน การขยายฐานการผลิต และแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศพันธมิตร
นอกจากนั้นแล้ว สำหรับเขตพื้นที่ EEC ได้เตรียมมาตรการจูงใจสำหรับผู้ที่เข้ามาลงทุนเพื่อลดภาษีขั้นต่ำทั่วโลก (GMT) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2568 เช่น การลดหย่อนภาษี 50% เป็นระยะเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ อุปสงค์ที่แข็งแกร่งเกิดขึ้นในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ยานยนต์ และเครื่องจักรโอกาสในการเติบโตนับเป็นความต้องการของศูนย์กลางข้อมูลต่างๆ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงจากการบริการภายในองค์กรสู่บริการบนคลาวด์ การนำ Edge Computing มาใช้ และการขยายขอบเขตของไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่า WHA จะมีการเติบโตด้านยอดขายที่ดินที่แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 1/2567 โดยอาจปรับเป้าหมายยอดขายให้สูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งการเติบโตด้านผลกำไรที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นของ WHA โดยประเมินค่า PER ในปี 2567 ไว้ที่ระดับ 13.9 เท่า
ทั้งนี้ยังคงเลือก WHA เป็นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม พร้อมกับคงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 6.20 บาท
ขณะเดียวกันยังคงเลือก AMATA เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่มีความโดดเด่นในกลุ่ม เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นการลงทุนกับลูกค้าที่มีมูลค่าสูงในชลบุรี โดยรายได้เริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นจากยอดขายที่ดิน และงานในมือ (Backlog) ที่สูง โดยประเมินค่า PER ในปี 2567 ไว้ค่อนข้างต่ำที่ระดับ 11.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 14 เท่า โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 29 บาท