ITEL ส่งซิก Q1 แจ่ม! ลุยชิงเค้กงานรัฐ-เอกชน 3-4 พันลบ. ดันรายได้-กำไรปีนี้นิวไฮต่อเนื่อง

ITEL ส่งซิกผลงาน Q1 แจ่ม! เตรียมประกาศงบ 8 พ.ค.นี้ เดินหน้าลุยชิงเค้กงานรัฐ-เอกชน 3-4 พันล้านบาท จ่อนำบริษัทลูก “บลู โซลูชั่น” เข้าเทรดตลาด mai ในปีนี้ ปักธงรายได้ปีนี้เข้าเป้า 3.5 พันล้านบาท มั่นใจดันรายได้-กำไรปีนี้นิวไฮต่อเนื่อง แย้มเจรจาร่วมทุนธุรกิจ “พลังงานทดแทน” 2 รายใหญ่ตลาดหุ้นคาดชัดเจนปลายไตรมาส 2 ต้นไตรมาส 3


นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ภาพรวมไตรมาส 2/67 จะออกมาสดใสใกล้เคียงปีก่อน ขณะที่แนวโน้มปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 3,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1.รายได้ในส่วนของตัว ITEL ประมาณ 2,800 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากงาน Data Service และ Data Center, 2. บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เป็นงานติดตั้ง ประมาณ 600 ล้านบาท และ3.บริษัทใหม่ที่เข้าไปซื้อกิจการเมื่อต้นปีที่ผ่านมาคือบริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ GLS วางรายได้ไว้ประมาณ 100 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีแผนเตรียมยืนประมูลงานใหม่ในปีนี้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท โดยจะยืนประมูลในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค.67 เนื่องจากงบประมาณของภาครัฐที่อนุมัติออกมาจะมีระยะเวลาการใช้ประมาณเดือน พ.ย.67 หรือประมาณ 6 เดือนจากนี้ ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่จะได้งานประมาณ 1,500-3,000 ล้านบาท โดยงานส่วนใหญ่เป็นภาครัฐทั้งหมด ในขณะที่งานภาคเอกชนปีนี้เตรียมยื่นประมูลประมาณ 600-900 ล้านบาทที่เป็นสัญญาใหม่ที่จะเซ็นเข้ามา

โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 2,769 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณ  1,790 ล้านบาท ทั้งนี้งานส่วนใหญ่จะเป็นงานบริการ Data Service ประมาณ 50% ของยอดทั้งหมด ขณะที่งานติดตั้งโครงข่ายประมาณ 20% และงานบริษัทย่อยประมาณ 300 ล้านบาท รวมถึงมีงานในบริษัทใหม่ที่ซื้อเข้ามาประมาณ 1-2% 

นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ แบ่งเป็นในส่วน ITEL ตั้งงบลงทุน 200-300 ล้านบาท เพื่อลากสาย Fiber ไว้บริการลูกค้า และตั้งงบเพิ่มเติมอีก 100 ล้านบาท ลงทุนในด้าน Data Center ซึ่งจะขยายอีกประมาณ 1.5 เมกะวัตต์ อีกทั้งในส่วนของบริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งงบจะลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนในงานที่จะได้เข้ามา ซึ่งคาดว่าจะได้งานเซ็นสัญญาเข้ามาเพิ่มประมาณ 700-800 ล้านบาท และบริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ GLS ตั้งงบจะลงทุนประมาณ 60-100 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้งบจากกำไรสะสมและการเซ็นสัญญาใหม่เข้ามาเพิ่ม

ส่วนความคืบหน้าของการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ทางด้านสุขภาพ Health Tech ปัจจุบัน GLS มีการเตรียมขยายและตั้งงบลงทุนประมาณ 60-100 ล้านบาทดังกล่าว โดยจะลงทุนในเรื่องของด้าน CT Scan และ MRI Scan  ซึ่งจะนำไปตั้งในแต่โรงพยาบาล ปัจจุบันได้เข้าไปพบลูกค้าประมาณ 20 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าโรงพยาบาลภาครัฐในจังหวัดและอำเภอ โดยคาดว่าจะปิดดีลได้ประมาณ 4-5 โรงพยาบาล ส่วนภาคเอกชนคาดว่าจะปิดได้ 1-2 คลินิกในช่วงประมาณไตรมาส 2 นี้ และคาดทยอยปิดดีลได้ในช่วงที่เหลือของปีเพิ่มเติม โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ประมาณ 150 ล้านบาท เติบโตประมาณ 3% ของรายได้รวม และตั้งเป้าแผน 5 ปี คาดว่ารายได้แตะระดับ 400-500 ล้านบาท

“ความคืบหน้าของแผนการนำบริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ล่าสุดก.ล.ต.เข้ามาเยี่ยมชมกิจการเมื่อวันที่ 10 เม.ย.67 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและกระบวนการดังกล่าวน่าไม่ติดอะไร และคาดแจ้งผลกลับมาในเดือนพ.ค.และในขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับอันเดอร์ไรท์เตอร์คาดจะได้ข้อสรุปไม่เกินกลางเดือนพ.ค.หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการโรดโชว์และเสอนขายหุ้น และจากนั้นคาดว่าจะเข้าเทรดตลาด mai ได้ประมาณปลายเดือนมิ.ย.และไม่เกินกลางเดือนก.ค.ตามแผนที่วางไว้” นายณัฐนัย กล่าว

นายณัฐนัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ไว้ที่ระดับ 3,500 ล้านบาท โดยจากธุรกิจหลักหนุน พร้อมกับปีนี้มีงบประมาณภาครัฐออกมาคาดว่าจะเป็นแรงผลักดันให้รายได้เป็นไปตามเป้า และมั่นใจว่าปีนี้รายได้และกำไรสุทธิจะทำนิวไฮต่อเนื่อง บวกกับกำไรพิเศษจากบริษัทใหม่ที่เข้าไปซื้อกิจการเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 2/2567 คาดผลงานคาดจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 คาดว่าจะเติบโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะจากการเข้าไปซื้อบริษัทใหม่ต้นปีคาดว่าจะได้มีการรับรู้กำไรพิเศษเข้ามาหนุนให้ผลงานออกสดใส ซึ่งบริษัทคาดว่าจะประกาศงบในวันที่ 8 พ.ค.นี้

ขณะที่นโยบายการให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นในแง่ของการจ่ายเงินปันผลนั้น ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.0696 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 พ.ค. 2567 และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 23 พ.ค. 2567 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ และบริษัทมีแผนปรับนโยบายเพิ่มเติมภายหลังจากการเข้าไปซื้อกิจการใหม่และนำบริษัทลูกเข้าตลาดโดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนส.ค. 2567

สำหรับ ITEL แน่นอนว่าธุรกิจบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าภาครัฐประมาณ 35-40% และภาคเอกชนประมาณ 60% ดังนั้นในเชิงการบริหารกิจการเชื่อว่าความเสี่ยงตรงนี้น้อยลง และบริษัทที่มีสัญญาณงานระยะยาวจะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้เวลาลูกค้าอื่นๆก็เชื่อน่าจะเป็นจุดแข็งของบริษัทและทำให้บริษัทดำเนินการได้ตามเป้าหมาย และมีการขยายงานในบริษัทลูก และจะมีการปรับปรุงนโยบายการจ่ายปันผล

ดังนั้นระยะยาวมองว่าบริษัทเป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน และปัจจุบันยังมีแผนที่จะร่วมทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์และขยายในธุรกิจพลังงานทดแทน ที่รัฐบาลจะผลักดันให้ไทยเข้า Net Zero หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยคาดว่าแผนร่วมมือจะมีความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3/2567 และอีกบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาและจะทำ JV ด้วย ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านพลังงานทดแทนซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน

“ส่วนภาวะการแข่งขันธุรกิจในปัจจุบันเป็นภาวะปกติเนื่องจากแบรนด์ของ ITEL มีชื่อเสียงและคุณภาพในเรื่องของการให้บริการ และลูกค้าให้ความมั่นใจในเรื่องการบริการ ดังนั้นบริษัทมั่นใจสามารถแข่งขันได้ และปีนี้จะมีงบประมาณของภาครัฐออกมา 2 ครั้ง บริษัทเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งเพื่อเข้าไปประมูลงานและมีโอกาสได้งานค่อนข้างสูง” นายณัฐนัย กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button