“โกลเบล็ก” มอง SET สัปดาห์นี้ไซด์เวย์ แนะเก็บ 6 หุ้นเด่นรับ “ดิจิทัลวอลเล็ต”
“บล.โกลเบล็ก” ประเมิน SET สัปดาห์นี้ไซด์เวย์ หลัง “กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ” เปิด GDP ไตรมาส 1/67 ขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ที่ 1.6% พร้อมคัด 6 หุ้นเด่น “CPALL-BJC-CRC-DOHOME-GLOBAL-HMPRO” รับนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต”
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัว Sideway โดยมีแรงกดดันจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผย GDP ในไตรมาส 1/2567 ขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4% จึงแนะนำจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีประเด็นบวกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมยกระดับเกณฑ์การซื้อขายใหม่ โดยเฉพาะการใช้มาตรการพิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดราคาทำชอร์ตเซล ด้วยราคาสูงกว่าราคาครั้งสุดท้าย เพื่อไม่ให้เกิดการดัมพ์ราคา (Uptick Rule) และการมีรมว.คลังที่ปรับใหม่ คาดว่าจะมาดูแลโครงการ Digital Wallet และปรับโครงสร้างภาษี จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,330-1,380 จุด
ส่วนประเด็นลบมาจากกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2567 มีมูลค่า 24,960.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (892,290 ล้านบาท) หดตัว 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มากกว่าที่ตลาดคาด -4% ถึง -5.9% จึงส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกไทยในไตรมาส 1/2567 หดตัว 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ การส่งออกที่หดตัวมากกว่าที่คาดไว้ส่งผลให้กระทรวงการคลังปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 เหลือ 2.4% ลดลงจากประมาณการเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.8%
โดยยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ วันนี้ (30 เม.ย. 67) จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนเม.ย., อียู รายงาน GDP ไตรมาส 1/2567 และอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. (ประมาณการเบื้องต้น), สหรัฐ รายงานราคาบ้านเดือนก.พ., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รู้ผลเช้ามืดวันที่ 2 พ.ค., วันที่ 1 พ.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนเม.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค.,
นอกจากนั้นวันที่ 2 พ.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเปิดเผยรายงานการประชุม, อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย., สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย, ดุลการค้าเดือนมี.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค. และ วันที่ 3 พ.ค. อียูรายงานอัตราว่างงานเดือนมี.ค., สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย. และดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย Digital Wallet ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไว้ โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวได้แก่ หุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL และบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำถูกกดดันจากสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่คลี่คลาย รวมทั้งความกังวลว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก หลัง GDP สหรัฐ ในไตรมาส 1/2567 ต่ำกว่าคาด จึงแนะนำให้ติดตามยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร, ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการสหรัฐ และการประชุมเฟดซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำโดยรอให้ราคาทองคำยืนเหนือแนวรับที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง